คำแนะนำสำหรับทุกท่านท่านสามารถ "ค้นหา" บทความย้อนหลังด้วยคำภาษาไทยจากเว็บไซต์นี้ได้ง่ายๆ อ่านที่นี่ครับ |
ไม่ได้อัพเดทบทความใดๆ มานานครับ ได้แต่นั่งมองนโยบายรายวันที่แก้ปัญหาแบบลิงแก้แห เกาไม่ถูกที่คัน แบบวัวพันหลัก ปัญหาการศึกษาชาติต้องแก้กันทั้งระบบ ไม่ใช่เอะอะก็ลงมาที่ครูกันหมด วันนี้จะมายำปัญหาต่างๆ (เรื่องเดิมๆ) ให้ท่านทั้งหลายได้อ่านกัน จะเอาไปคิดไปแก้ไขต่อกันก็ได้ตามสะดวก หรือไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่าอะไร แต่เปิดใจรับฟังกันสักนิดดีไหม... มีพาดหัวข่าวที่แชร์กันในเฟซบุ๊คมาจากเว็บหนึ่งว่า "พี่ไทยดูไว้! ฟินแลนด์จ่อเป็นประเทศแรกในโลกที่ยกเลิกวิชาเรียนทั้งหมด" แล้วก็คอมเมนต์กันสนุกปากว่า ไม่มีทางทำได้ หรือรอให้เต่ามีเขางอกก่อน ก็ว่ากันไป
มีโรงเรียนมากมายในปัจจุบันที่สอนโดยอิงจากหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับสังคมโลกในยุค 1900 เราต้องคิดใหม่และออกแบบระบบการศึกษาใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยศตวรรษที่ 21 นั่นคือทักษะที่เด็กในวันนี้ต้องเรียนรู้เพื่อจะเอาไปใช้ในอนาคต
Marjo Kyllonen ผู้อำนวยการของกรมสามัญศึกษาในเฮลซิงกิ
เป็นบทความข่าวเก่าตั้งแต่ปี 2557 นะครับ จากหนังสือพิมพ์โพสท์ทูเดย์ สัมภาษณ์พิเศษ "ครูคริส"ชำแหละการศึกษาไทย เมื่อ 02 กรกฎาคม 2557 เวลา 12:18 น. เรื่องโดย อินทรชัย พาณิชกุล เอามาเล่าซ้ำอีกครั้ง เพราะสิ่งที่เป็นอยู่ในบริบทการศึกษาไทย ปี พ.ศ. 2559 ก็ยังเหมือนเดิม โยนกลองกันไปมา ที่น่าตกใจคือยังมีเหลือบที่จ้องคอยหากินจากงบประมาณจากบรรดาข้าราชการลิ่วล้อสอพลอเจ้ากระทรวงนั่นแหละ มันเดินย่ำกับที่เกาไม่ถูกที่คันมานานแล้วนะ
มาฟังมุมมองของครูสอนภาษา ชาวต่างชาติผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาไทยมานานหลายปีกันนะครับ
ปี 2557 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบประมาณมากกว่าห้าแสนล้านบาท นับว่าสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทว่าจากการจัดอันดับของ เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม เกี่ยวกับคุณภาพการศึกษาของไทยกลับอยู่อันดับรั้งท้าย
ขณะเดียวกัน ผลการจัดอันดับทักษะความสามารถด้านภาษาอังกฤษจาก 54 ประเทศทั่วโลก ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก พบว่าประเทศไทยอยู่อันดับที่ 53 ของโลก
เกิดอะไรขึ้นกับระบบการศึกษาไทย!!!
จะผ่านพ้นปี ๒๕๕๘ ไปในวันนี้ ก็ขอบ่นสักหน่อยแล้วกันนะครับ ตลอดช่วงปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเสพสื่อชนิดใด หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สังคมออนไลน์ เราจะได้ยินการพูดถึงความตกต่ำของการศึกษาไทย และแน่นอนไม่ว่าจะมาจากแหล่งข่าวใดๆ ก็ตาม จำเลยที่ถูกประนามหยามเหยียดมากที่สุดคือ "ครู" ไม่ปฏิเสธใช่ไหมครับ เราจึงได้เห็นสารพัดสารพันโครงการที่จะสร้างภาระให้กับครู โดยใช้คำว่า "พัฒนาครู" เป็นตัวนำ ครูนับหมื่นนับแสนคนในประเทศนี้เป็นคนที่แย่ นิสัยเสีย ไม่รักดี (เอามาจากคำพูดเด็กๆ ที่บอกว่า ถูกอบรมเพราะนิสัยเสีย ครูก็น่าจะแบบเดียวกันเนาะ) จึงต้องเข้ารับการอบรมกันขนานใหญ่ ถามจริง มันใช่การแก้ปัญหาถูกที่คันหรือเปล่า?
ตามหัวเรื่องเลย "หยุด! กล่าวหาครูเป็น "แพะ" รับบาปทีได้ไหม?" ทำไมผมจึงกล่าวเช่นนั้น ผมมีเหตุผลที่จะสาธยายให้ฟังครับ (แม้บนหอคอยงาช้างทั้งหลายจะไม่ได้ยินก็ช่างเถิด ผมมีหน้าที่บ่นๆๆๆ ผมทนได้ บ่นกันไปเรื่อยๆ ใครใกล้ชิดสนิทเจ้านายก็ลองบอกให้ท่านอ่านดูบ้างก็ได้นะ ฝันไปเถอะ...) ถ้าเราเข้าใจตรงกัน บางทีการแก้ปัญหาถูกที่ เกาในส่วนที่คัน รักษาในส่วนที่บกพร่อง จะทำให้การศึกษาของไทยไปได้ถูกทาง ลองคิดตามกันดูหน่อยนะครับ...
ช่วงหลังๆ นี่ไม่ค่อยได้อัพเดทเว็บเลย ยอมรับในความสับสนของนโยบายรายวันที่มาจากหอคอยงาช้าง แบบว่า "นายว่า ขี้ข้าพลอย" จะตรงตัวมากที่สุด ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับท่านผู้บริหารสูงสุดที่มาจากทหารนะครับ การเห็นด้วยแล้วแปลงไปสู่วิธีการปฏิบัติต้องใช้เวลาพอสมควร ต้องทบทวนย้อนหลังว่า "สาเหตุ" ที่เป็นปัญหานั้นมาจากอะไร ต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ จะเริ่มทันทีเลยได้ไหมโดยไม่กระทบส่วนอื่นๆ ถ้าไม่ได้เราควรมีขั้นตอนอย่างไร หนึ่ง สอง สาม ถ้ามีปัญหาในขั้นตอนนั้นจะต้องมีการแก้ไขจัดการอย่างไร ไม่ใช่นายพูด ลูกน้องงับแล้วก็เหวี่ยงต่อใส่ครู เฮ้ย.... แบบนี้ใครก็เป็นผู้บริหารระดับสูงได้สิ ทำไมไม่มีใครที่มีวิญญาณครู(บนหอคอย)ได้อธิบายให้ท่านผู้นำทราบบ้างว่า เราควรจะทำอย่างไรเป็นขั้นเป็นตอน นี่เป็นได้แค่เพียง Repeater เท่านั้นหรือ?
หรือจะเป็นดั่งนิทานอีสปเรื่อง "หนูผูกกระพรวนที่คอแมว" ไม่มีหนูตัวใดกล้าเอาลูกกระพรวนไปผูกคอแมว ทั้งๆ ที่มันจะส่งเสียงเตือนทุกครั้งที่แมวจะเข้ามาใกล้หนู หนีทันไม่โดนจับกิน ความคิดดี แต่หนูตัวไหนจะอาสาทำล่ะ! คงไม่ขนาดนั้นมั๊งครับ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แม้ท่านจะเป็นทหาร ต้องการเห็นผลในทันใด แต่ท่านก็ฟังเหตุผลอยู่ แล้วทำไมท่านถึงได้สั่งการเช่นนั้น ก็เพราะที่ผ่านๆ มา บรรดาหนูทั้งหลายเอาแต่วิ่งรอบเก้าอี้ไม่ทำสักทีนะซิ เลยต้องขึงขังสั่งการให้เก้าอี้ร้อนๆ กันหน่อย แบบว่า "ระบบราชการ ชอบ ไฟลันก้น" จริงไหมล่ะ? ต้นปีงบประมาณก็เรื่อยๆ เฉื่อยๆ แฉะๆ พอเข้าระยะ "มีนา เมษา สิงหา กันยา" นี่กระดี้กระด้ากันจัง แหมขยันขันแข็งกันใหญ่พอผ่านฤดูให้ความดีความชอบละผักลวกเชียว หรือจะเถียงว่าไม่จริง
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)