Happy New Year 2023
ในวาระดีถีปีใหม่ ๒๕๖๖ นี้ ก็ขออำนวยอวยพรให้เพื่อนครู ผองเพื่อน มิตรรักอ่านทุกท่าน จงประสบแต่ความโชคดี ตลอดปี ตลอดไป นะครับ ขอให้เป็นปีที่ทุกท่านประสบผลสำเร็จ ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัว ความรัก มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ก้าวหน้าในหน้าที่การงานครับผม
ครูมนตรี โคตรคันทา
๑ มกราคม ๒๕๖๖
ข้อเรียกร้องของครูเมื่อปีก่อน ปีนี้จะเป็นอย่างไร?
เป็นคำถามที่พบเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ตลอดเวลาในปีที่ผ่านมา และในวันหยุดชดเชยปีใหม่ก่อนจะเปิดทำการ ก็ยังคงดังก้องสนั่นอยู่เช่นเดิม ในขณะที่ผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลง ให้ความช่วยเหลือก็ยังไม่ออกมาพูดสักคำว่า ได้ยินแล้ว? กำลังดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบที่มันล้าหลังมานับร้อยปี และอื่นๆ อีกมากมาย คือว่า พวกเรายังไม่ได้ยินอะไรเลยเป็นรูปธรรมนั่นเอง ข้อเรียกร้องต่อไปนี้มีมาตั้งแต่วันครู 16 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
- ขอให้สนับสนุน อุปกรณ์การจัดการเรียนการสอน และระบบการสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ให้เพียงพอและครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนของครู โดยครูไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง (ครูหลายๆ คนต้องมีทั้งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คส่วนตัว แท็ปเล็ต โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายภาพ เครื่องพิมพ์ ค่าใช้จ่ายเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเอง เพื่อจัดทำสื่อการเรียนการสอนกันเองตามอัตภาพ แต่หน่วยเหนือยังฝันหวานถึงความสำเร็จในการเรียนการสอนที่รัฐไม่ต้องลงทุนอยู่อีก)
- ขอให้กำหนดและจัดสรรอัตราในกลุ่มงานสนับสนุนให้เพียงพอ เพื่อให้ครูได้จัดการเรียนการสอนอย่างเดียว หรือมีงานอื่นที่รบกวนการปฏิบัติการสอนของครูให้น้อยที่สุด ครูจะได้มีเวลาทุ่มเทให้กับการสอนและดูแลผู้เรียนได้อย่างเต็มที่ (ผู้บริหารโรงเรียนยังคงผลักภาระเจ้าหน้าที่การเงิน พัสดุ เจ้าหน้าที่ธุรการ ให้ครูบรรจุใหม่ ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ใดๆ มาก่อน เสี่ยงต่อความผิดพลาด จนได้รับความเดือดร้อนจากการงานที่ทำ ทั้งการทุจริตที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือเพราะเจ้านายสั่งลงมาอีก)
'งานธุรการ การเงิน' ไม่ควรเป็นหน้าที่ของครู คือ คำครูขอบ่น อันดับ 1 ยอดนิยม ปี 2022 "
- ขอให้ "ลดนโยบายขายฝัน" ในระดับต่างๆ และลดงานหรือการประเมินที่ไม่จำเป็นต่อการจัดการเรียนการสอนลง ให้ครูได้มีเวลาทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการจัดประสบการณ์ตามหลักสูตรให้แก่ผู้เรียน (ปีที่ผ่านมา เจ้ากระทรวงพยายามออกมากำชับ สั่งห้ามอย่างไร ก็ไร้ผล เช่น การสอบวัดต่างๆ ผู้บริหารระดับล่างก็ยังสั่งให้โรงเรียนทำให้ได้ 100% เพื่อเอาตัวเลขไปรายงาน ซึ่งมันแปลกมากที่ตัวเลขปีนี้กับปีก่อน ตัวป้อนคนละอย่างกันเอามาเทียบกันได้อย่างไร?)
- ขอให้หา "จุดที่เหมาะสม" ในการกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพครู ให้มีความชัดเจนและมีความมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งจนครูเสียโอกาส และขอให้พิจารณาเปลี่ยนเกณฑ์การพัฒนาครู เพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะเป็นลักษณะอื่นแทน ที่ไม่เป็นภาระแก่ครู (ซึ่งตอนนี้ก็ยังโกลาหลกันอยู่ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวระบบเดิมกับระบบใหม่ กรรมการประเมินที่ยังไม่หลุดจากกรอบความคิดเดิมๆ สั่งการตามความเห็นของตนโดยไม่สนใจศึกษากฎระเบียบให้ถ่องแท้)
- ขอให้จัดอัตรากำลังครูให้เพียงพอ โดยพึงพิจารณาให้มีครูครบชั้นเรียน และครบทุกกลุ่มวิชา (โดยเฉพาะการเกลี่ยอัตราที่ล้นเกินบนสำนักงาน ในโรงเรียนใหญ่ๆ ให้คุณค่าแก่ผู้ทำงานในเขตชนบทมากกว่านี้)
ครู 1 คน : นักเรียน 3 ชั้นเรียน ช่วยดูแลโรงเรียนขนาดเล็กด้วย "
- ขอให้งดหรือลด "การอบรมครู" ในส่วนที่ไม่จำเป็น ซึ่งการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความก้าวหน้า ควรจะอยู่ในขั้นตอนของสถาบันผลิตครู หรือการพัฒนาครูควรเกิดขึ้นจากหลักสูตรวิชาชีพครูที่มีความเข้มข้น ณ ขณะที่ยังศึกษาอยู่ในสถาบันผลิตครู เมื่อจบการศึกษาหรือจบหลักสูตรวิชาชีพครูมา จะต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมอย่างเข้มข้นแล้ว (เว้นแต่ การเพิ่มสมรรถนะกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องมาเรียนรู้ก็ควรทำในช่วงปิดภาคเรียน หรือไม่กระทบต่อการจัดการเรียนการสอน หรือการอบรมภาคความรู้ทฤษฎีผ่านทางระบบออนไลน์ แล้วจึงไปฝึกภาคปฏิบัติจริงในช่วงวันหยุด)
- ขอให้จัด "สวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้ครู" โดยให้มีบ้านพักครูที่เพียงพอ หรือเอื้ออำนวยเรื่องการเบิกค่าเช่าบ้าน หรือจัดสรรเงินสวัสดิการอื่น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย จัดโครงการสวัสดิการกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้มีบ้านพักอาศัยของตนเอง
- การรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ ควรยกเลิกการอยู่เวรยามในเวลากลางคืน ที่ครูต้องไปนอนเฝ้าโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนเล็กๆ นั้นอาจจะต้องอยู่โยงนอนเฝ้าแบบวันเว้นวันเลยทีเดียว ควรใช้ระบบอื่นๆ ทดแทน เช่น การมีเวรยามรักษาความปลอดภัยเฉพาะ การใช้ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นกล้องวงจรปิด ระบบเตือนภัยที่เชื่อมโยงกับระบบความปลอดภัยท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. สถานีตำรวจ เป็นต้น
มีกล้องวงจรปิดรอบโรงเรียน ให้ครูเฝ้าเวรกลางวัน 2-4 คน ให้ครูชายนอนเวรกลางคืน 1 คน นักการ/ภารโรง 1 คน เคยถาม ผอ. ว่า 'ถ้าขโมยมีอาวุธเข้ามาขโมยของในโรงเรียนจะให้ทำยังไง' คำตอบที่ได้คือ 'หาที่แอบ มันอยากได้อะไรให้มันเอาไป' ความสงสัยในหัวคือ แล้วเอาชีวิตครูมาเสี่ยงทำไม ก็ปล่อยให้กล้องวงจรปิดมันทำหน้าที่มันไปเถอะครับ "
CR: ติณณภพ
ปีนี้ 2566 จะมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรสำหรับการมี "รัฐบาลชุดใหม่" เข้ามาบริหาร (อาจจะเหล้าเก่าในขวดใหม่ก็ได้ อันนี้ไม่ว่ากัน ขึ้นอยู่กับผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งจะเลือกใคร) จะรอความหวังจาก "นักกินเมือง" ก็คงเชื่ออะไรไม่ได้ เพราะเป้าหมายของพวกเขาคือ หาคะแนนเสียง ทำให้ได้รับการเลือกตั้ง เข้าไปในสภาเพื่อรวมเสียงจัดตั้งกันเป็น "รัฐบาล" เพื่อหาส่วนต่างชดเชยกับที่เสียไปตอนหาเสียง แล้วก็ลืมคำสัญญาลมๆ แล้งๆ นั่นไป อย่าไปฝันกับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงืนเดือนๆ ละ 25,000 บาท ตราบใดที่แต่ละโรงเรียนยังคงพากัน "ทอดผ้าป่า" เพื่อหาเงินจ้างครูมาสอนให้เงินเดือน 5,000 บาทกันอยู่ มันวังเวง เอวัง กับประเทศไทยจริงๆ