foto1
ความงดงามการศึกษาไทย
foto1
เพื่อ?
foto1
ไม่เข้าใจ?
foto1
วิทยากรที่กระทรวงศึกษาธิการ สปป.ลาว
foto1
ท่องทะเลทรายที่ดูไบ UAE


Friendly Links

เรียนรู้ภาษา html
isangate banner
easyhome banner
ipst banner
sakdibhornssup foundation
13 Thai free fonts
speedtest
e mil

Facebook Likebox

No. of Page View

ถอดบทเรียนเพื่อขึ้นหิ้ง

ไม่ได้อัพเดทนานๆ ม๊ากมาก ด้วยที่ตัวผมออกจากวงโคจรจัดการศึกษาไปนานพอควร ก็เห็นว่าทุกฝ่ายร่วมมือกันดีแม้จะมีเสียงบ่นจากเพื่อนๆ ครู (กระหึ่ม) กันพอควร แต่วันนี้จำเป็นตค้องเขียนบรรยายยาวๆ สักที เพราะใน Facebook ส่วนตัวมันเขียนยาวๆ แล้วไม่มีใครอ่านกัน เลื่อนผ่านไปหมดไม่ทันใจเลยเอามาบันทึกทางนี้ดีกว่า นี่เป็นความคิดส่วนตัวของผมที่อาจจะมีคนเห็นต่าง หรือเห็นด้วยอย่างไรก็บอกกันมาได้ครับ เพื่อสร้างสรรค์วงการศึกษาไทยเราให้ก้าวหน้าต่อไป

school bus fire 01

ผมเห็นข่าวนี้ตอนเที่ยงเมื่อวานระหว่างเดินทางจากอุบลราชธานีเข้ากรุงเทพมหานคร ด้วยความสลดหดหู่อย่างยิ่ง ติดตามข่าวเรื่อยมาจากสื่อต่างๆ ในโทรศัพท์เท่าที่หาได้ก็ไม่ชัดเจนนัก จนมาถึงบ้านตอนหัวค่ำจึงพอมีรายละเอียดบ้าง สรุปได้ดังนี้

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. รถโดยสาร 2 ชั้นที่นำนักเรียนจาก โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม หมู่ 5 ตำบลลานสัก อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นนักเรียน 38 คน, ครู 6 คน และ คนขับ 1 คน รวม 45 คน เกิดเหตุเพลิงไหม้ระหว่างเดินทางเข้ามาทัศนศึกษาใน จังหวัดนนทบุรี เกิดไฟไหม้บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า หน้าศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ได้รับรายงานสถานการณ์จากเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่ารถคันดังกล่าวเกิดยางระเบิดขึ้น ก่อนชนเข้ากับแบริเออร์ และเกิดเหตุเพลิงไหม้ในเวลาต่อมา ซึ่งพบว่ารถใช้ก๊าซเอ็นจีวี เป็นเชื้อเพลิงและเพลิงเริ่มลุกไหม้จากด้านล่างของตัวรถ ผู้ประสบอุบัติเหตุบนรถบัสคันเกิดเหตุจำนวน 45 คน เป็นเด็กนักเรียน 39 คน, ครู 6 คน และคนขับ 1 คน โดยนักเรียนทั้งหมดเป็นนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3"

อุบัติเหตุ คือ เหตุที่เกิดโดยไม่คาดคิด

อุบัติเหตุ หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด และมักก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน ในที่ทำงาน หรือที่บ้าน อุบัติเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ อุบัติเหตุทางถนน อุบัติเหตุในโรงงาน อุบัติเหตุทางอากาศ และอุบัติเหตุทางน้ำ ดังนั้น กิจกรรม/โครงการต่างๆ ของโรงเรียนทุกกิจกรรมย่อมมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ หลังเกิดอุบัติเหตุรถยนต์โดยสารของนักเรียนในครั้งนี้จึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมามากมาย จากหลากหลายช่องทาง

แต่ส่วนใหญ่ความเห็นที่ออกมาก็หลากหลาย เช่น "ด่วน! ควรยกเลิกโครงการทัศนศึกษาทันที" "เห็นด้วยหรือไม่ ?  #ยกเลิกทัศนศึกษา #ยกเลิกค่ายกิจกรรมไกลๆ" "ลำบากใจทุกครั้งที่ได้รับมอบหมายให้ควบคุมนักเรียนเดินทางไปทัศนศึกษา" "ไม่ยกเลิกโครงการที่เป็นประโยชน์นี้ แต่ต้องทบทวนการดำเนินงาน ประเมินความเสี่ยง ประสานการรับความช่วยเหลือมีตำรวจทางหลวงนำขบวน" ฯลฯ อีกมากมาย ส่วนผมมีความเห็นดังภาพบนนั่นแหละ เรามาฟังเหตุผลใช้สติในการคิดวิเคราะห์กันหน่อยดีไหมครับ

มีกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนมากมายที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ หากไม่ระมัดระวังป้องกันให้ดี เช่น

  • กิจกรรมการเรียนในห้องทดลองปฏิบัติการต่างๆ เช่น การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การทดลองในงานช่าง การปฏิบัติในวิชาการงานอาชีพ อาจมีอุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร สารเคมีระเหย หกเลอะเทอะ การตัดเชื่อมโลหะ แม้แต่การตัดกระดาษ ผ้า เย็บปักถักร้อยก็มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ทั้งสิ้น
  • กิจกรรมกีฬาและการแข่งขันทั้งในและนอกสถานศึกษา ก็อาจมีอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา การแข่งขันต่างๆ ได้ ยิ่งในยุคที่มีการเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างห้อง โรงเรียน เขตพื้นที่การศึกษา และต่างสถาบัน ทำให้มีกิจกรรมที่ต้องเดินทางไปร่วมการแข่งขันด้วยพาหนะตามมีตามเกิด โรงเรียนใหญ่มีเงิน มีสปอนเซอร์ก็อาจจะมีรถโดยสารอย่างดี โรงเรียนเล็กๆ ก็อาจจำเป็นต้องไปด้วยการนั่งท้ายรถกระบะครูไปนี่แหละ ประหยัดและถึงที่หมายเหมือนกัน
  • กิจกรรมทางวิชาการ ศิลปหัตถกรรม กิจกรรมนี้ส่วนใหญ่ก็เห็นความคึกคักและความยินดีจากผู้บริหารโรงเรียน คณะครูอยู่ไม่น้อย เพราะผลจากการร่วมการแข่งขันต่างๆ นั้นจะสามารถนำไปขิงกับโรงเรียนอื่นๆ ได้ นอกจากนั้น ผลของการแข่งขันยังได้รับใบประกาศนียบัตร เหรียญ หรือโล่รางวัล ที่สามารถนำมาใช้ประกอบการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งเงินเดือนได้ด้วย มองในอีกมุมกับนักเรียนที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมการแข่งขันกับเขาเลย กลับไม่ได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควร จนกลายเป็น ปึกแป้นปีก อยากรู้คลิกฟังเลย!
  • กิจกรรมเดินทางไกล/อยู่ค่ายพักแรมลูกเสือ/เนตรนารี กิจกรรมนี้ยิ่งมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากมาย ถ้าไม่ระมัดระวังอย่างเพียงพอ เพราะส่วนมากจะมีการจัดฐานฝึก ฐานทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ซึ่งมักจะมีผู้รับผิดชอบ(บางคน)ที่มีร่างกายแข็งแรง ประสบการณ์ชีวิตมากมาย ก็อยากจะใส่กิจกรรมที่มีความเข้มข้นระดับสูงสุด เพื่อสนองต่อความต้องการของข้าพเจ้า โดยลืมไปว่า นักเรียนและครู้ผู้ร่วมกิจกรรมหลายๆ คนไม่ได้มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์อย่างตน มีทักษะชีวิตน้อย ตลอดจนกิจกรรมในฐานเหล่านั้นมีความเสี่ยง เช่น การไต่หรือโหนเชือกข้ามน้ำ จนมีอุบัติเหตุตกน้ำตกท่า หากไม่บาดเจ็บร่างกาย แต่ก็มีไม่น้อยที่บาดเจ็บเป็นรอยแผลในจิตใจ เกิดเป็นปมที่ทำให้ได้รับอันตรายฝังใจไปอีกนาน

ยังมีอีกมากมายหลายกิจกรรมที่ยังไม่เอ่ยถึง ท่านอาจจะนึกออกก็ได้ แล้วลองหลับตานึกหาสาเหตุและแนวทางแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไปกันครับ เราควรจะเลิกกิจกรรมที่เสริมสร้างประสบการณ์ดีๆ เช่นนี้ไหม? เราควรจะมีการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้เพื่อนำมาเป็นบทเรียนในการป้องกันและแก้ไขกันบ้างหรือไม่

จุดประสงค์โครงการกับงบประมาณอันน้อยนิด

วัตถุประสงค์ของโครงการใดๆ เราก็ตั้งไว้เลิศเลอเพอร์เฟ็คเสมอแหละ มันเป็นความตั้งใจและปรารถนาดีที่มีต่อนักเรียนและลูกหลานของเรา แต่... เงินงบประมาณสนับสนุนนั้นมันช่างอนาถยิ่งนัก ถ้าโรงเรียนเล็กๆ ขาดการสนับสนุนงบประมาณ ก็ต้องเดือดร้อนทางคณะครูต้องหามาสมทบ หรือต้องขอร้องให้ทางผู้ปกครองช่วย ผลกระทบจังๆ ก็ส่งผลทำให้การดำเนินงานที่จำกัดด้วยงบประมาณ จนเกิดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้

อย่างโครงการทัศนศึกษานี่ "ก็ได้รับงบประมาณมาเป็นรายหัวมาเล็กน้อยมาก" แล้วสิ่งที่ต้องการให้เกิดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ น่าจดจำสำหรับนักเรียนมันก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ โรงเรียนหรือสถานศึกษา ทำให้ต้องมีการเดินทางไกล มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น บางโรงเรียนก็เลยจำใจต้องลดบางสิ่งบางอย่างลง เช่น ลดขนาดหรือมาตรฐานของพาหนะเดินทาง รถทัศนศึกษาก็เลือกเอารถบัส 2 ชั้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง ทำให้เกิดความแออัดยัดเยียดกลายเป็นความเสี่ยงดังที่เรารู้ๆ กันอยู่

มองปัญหาแล้วแก้ไขกันดีกว่า

เราไม่ควรเลิกกิจกรรมดีๆ สำหรับเด็ก เพื่อให้เขาได้รับประสบการณ์ชีวิตที่ดี เหมาะสมกับวัย ได้ประโยชน์คุ้มจากงบประมาณที่มีน้อยนี้กัน ลองมาสมมุติกันหน่อยดีกว่า ประเทศไทยเรามีสองสาว SoftPower ที่โด่งดังรู้จักกันในระดับนานาชาติ และทั้งสองนี่ก็อยู่กันคนละที่ ไม่ได้ใกล้กับสถานศึกษาของเรา การจะเชิญให้มาปรากฏตัวที่โรงเรียนเราคงยากจะเป็นไปได้ เพราะต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก หนึ่งคือ น้องลิซ่า ลลิษา มโนบาล คนนี้ตัดออกไปก่อนเธอคงไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาร่วมกิจกรรมกับเราแนา

moodeng

สาวที่สอง น้องหมูเด้ง แห่งสวนสัตว์เปิดเขาเขียว คิวเธอแน่นมากและมักจะไม่เด้งตามเวลาที่เราไปดูเท่าไหร่ เธอยังเด็กที่ต้องการจะนอนมากกว่ามาโชว์ตัว แม้จะจัดรถบัสนำนักเรียนไปทัศนศึกษายังสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ก็ใช่จะมีเวลาได้เฝ้าดูเธอใกล้ชิดไม่ แต่เราต้องจัดกิจกรรมนี้ให้ได้ เรื่องมันกำลังโด่งดัง ทำไงดีล่ะ?

  • จัดนิทรรศการเรื่องราวของเซเลปสาว "น้องหมูเด้ง" ให้ความรู้เกี่ยวกับฮิปโปโปเตมัสและฮิปโปแคระ เรื่องราวชีวิตอันโด่งดังของเธอด้วยภาพถ่าย และคลิปอีกมากมายในช่องทางสื่อต่างๆ นำนักเรียนเข้าชมและหาความรู้เพิ่มเติมจากนิทรรศการนี้ทีละห้องเรียน เสริมด้วยกิจกรรมวาดภาพระบายสีประกวดแข่งขันกัน ภาพและเรื่องราวหาได้จาก Page Facebook ของ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว, หมูเด้ง แอนด์เดอะแก๊ง, และ EDU zoo say ที่มีเรื่องราวมากมายพร้อมภาพจริง ภาพวาดการ์ตูนที่จะนำมาทำกิจกรรมต่างๆ ไปค้นหาดูกัน
  • สำหรับโรงเรียนที่มีที่ตั้งใกล้สวนสัตว์ต่างๆ ก็อาจพานักเรียนไปชื่นชมสัตว์ต่างๆ จริงๆ ได้ ถ้าเป็นฮิปโปแคระเครือญาติของน้องหมูเด้งก็มีอยู่หลายที่ เช่น น้องหมูด้วง(มะพร้าว) ที่สวนสัตว์ขอนแก่น น้องคากิ ที่สวนสัตว์อุบลราชธานี เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องไปถึง สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่ชลบุรี ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากแฟนเพจในข้อก่อนหน้าได้

จะเห็นได้ว่า เรามีแนวทางการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ถ้าช่วยกันคิดและแก้ปัญหาอย่างมีสติ ในโลกโซเชียลได้มีการถกเถียงสนั่น เกี่ยวกับประเด็นการจัดทัศนศึกษาว่า ควรจะยังจัดให้มีอยู่หรือไม่ หรือที่จริงแล้วควรแก้ปัญหาต่อที่จุดไหน ล่าสุด ทางด้านของดารา คนบันเทิง ต่างออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ "แพรรี่ ไพรวัลย์" ออกมาโพสต์ว่า

งบจำกัด ก็แลกมาด้วยความปลอดภัยที่ต่ำค่ะ บุคลากรที่ไม่เพียงพอ ก็แลกมาด้วยความช่วยเหลือดูแลที่ล้าช้า และไม่ทันเหตุการณ์"

ผมเห็นด้วยมาก และขอยกมือสุดสองแขนเลยทีเดียวกับคำกล่าวนี้ พร้อมกันนี้ยังได้ออกมาเคลื่อนไหวความเห็นจากผู้ปกครองว่า "จากใจของผู้ปกครองท่านหนึ่ง ที่ไม่ได้มีปัญหากับเรื่องของการพาเด็กไปทัศนศึกษานะคะ แต่อยากให้มีการดูแล และให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยในการเดินทางของเด็กๆ ให้มากๆ"

school bus fire 03

school bus fire 04

นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก "ครูโซ่ สอนศิษย์ให้คิดบวก" ได้โพสต์ว่า "ทัศนศึกษามันควรมีเหมือนเดิมแหละครับ เพราะชีวิตสถานะครอบครัวแต่ละครอบครัวมันต่างกันครับ บางคนไม่มีโอกาสแม้แต่ไปในเมืองด้วยซ้ำ การได้เรียนรู้นอกสถานที่เป็นสิ่งจำเป็นครับ แต่สิ่งที่เราควรตระหนักและควรเข้มงวดคือการตรวจสภาพรถ การซ้อมการหนี ตรวจสอบประตูหนีไฟและอันตรายที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอนะครับ ผมจำได้ว่าสมัยตอนเป็นครูราชการ ตอนทำหน้าที่จัด ทัศนศึกษาต้องตรวจรถทางหนีไฟด้วยและยังต้องเอาหัวหน้าห้องรองหัวหน้าห้องเข้าไปดูด้วย ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ"

ถอดบทเรียนแล้ว... ขึ้นหิ้ง

ประเทศไทยเราผ่านภัยพิบัติมานับไม่ถ้วน และการเกิดขึ้นแต่ละครั้งเราก็มักจะตีเกราะ เคาะไม้ ป่าวประกาศ เรียกประชุมมาร่วมกัน "ถอดบทเรียน" นัยว่า เพื่อเป็นการป้องกันมิให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นและมีผลกระทบกับประเทศเราอีก "บทเรียน" เหล่านั้น ถอดประสบการณ์ ปัญหา สาเหตุ การป้องกัน แล้วเอาไปเก็บไว้ที่หิ้งไหนกัน ทำไมไม่เอามาพิจารณากันก่อนจะทำกิจกรรมใดๆ เราขยันถอดบทเรียนกันจัง เหมือนไฟไหม้ฟางพอควันจางก็ลืมเสียสิ้น เฮ้อ!!!

ปิดท้ายด้วยบทความ "เรียนรู้เกียวกับความปลอดภัยและการเลือกใช้บริการรถทัศนศึกษา" นี้เลย คลิกไปอ่านเพิ่มเติม

บันทึกไว้เมื่อ : บ่ายวันที่ 2 ตุลาคม 2567
โดย ครูมนตรี โคตรคันทา ข้าราชการครูบำนาญ

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Our Policy