He's The Father of the Nation, The National Godhead, The Lord of the Lands, The Soul of the Nation, The Possessor of the Four and Twenty Golden Umbrellas.
Or simply, to most Thais, he's perfect, even "very perfect".
King Bhumibol Adulyadej The Great of Thailand is the world's longest serving monarch. He has been on the throne since 1946.
He may have no constitutional power but, after 60 years as king, he has emerged as the most powerful man in the country.
John Murphy
Producer, BBC Radio 4's Tiger Tales
ข้อความข้างบนนั้น ผมนำมาจากเว็บไซต์ของวิทยุบีบีซี เป็นความรู้สึกของฝรั่งที่มองพระมหากษัตริย์ของเรา ด้วยความทึ่งและชื่นชม ส่วนภาพประกอบนั้นมาจากการประชุม APEC ในเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อน พระองค์ทรงเป็นยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ที่พวกเราชาวไทยเคารพรักและเทิดทูน จนมีคนกล่าวว่า พระองค์นั้นคือ พระราชาของพระราชาทั้งปวง (The King of Kings) ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญพวกเราชาวไทยตลอดกาล...
ใกล้จะสิ้นปีเข้าไปเต็มทีแล้วครับ อายุเราจะเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี แต่วิถีชีวิตของเรายังคงไม่เปลี่ยน เส้นทางข้างหน้ายังคงมีปัญหาอุปสรรคอีกมากมายนักรออยู่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง (ที่ดูเหมือนครูจะถูกระบุว่าเป็นกลุ่มอาชีพที่มีหนี้สินพอกพูนลงหน้าหนังสือพิมพ์รายวันอยู่บ่อยๆ) ค่าครองชีพที่ยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ อีกทั้งเรื่องจะโอนไม่โอน จะย้ายไม่ย้าย ใครจะอยู่ใครจะไป (ที่หลายคนพยายามยุให้ผมแสดงความคิดเห็น) รวมทั้งเส้นทางการปฏิรูป (ลูบ เลอะเลือน) การศึกษาไทยในวังวนอำนาจ...
คงจะไม่ต้องขยายความดอกกระมัง เพราะท่านคงจะมองออกอยู่แล้วว่า ระบบที่ล้มเหลวมีที่มาที่ไปจากอะไรกัน กฎหมาย ทุกฉบับก่อนจะออกมาผ่านการกลั่นกรองแล้วอย่างดีแต่ คน นี่นะซิหาทางออกตามรู ตามช่องโหว่ นอกจากไม่ค่อยจะยอมปฏิบัติแล้วยังมีบางกลุ่ม บางพวก พยายามแสวงหาอำนาจและประโยชน์จากช่องว่างของกฎหมาย ผู้รู้ไม่พยายามยอมรับว่ามาตรฐานของคนไทยมันสู้ต่างชาติเขาไม่ได้ จึงพยายามเอาแบบอย่างจากต่างประเทศมาใช้กับคนไทย เมื่อมาตรฐานคนไม่เท่าเทียมกัน ผลของการทำเหมือนกัน คุณภาพจึงออกมาไม่เหมือนกัน แต่เราก็ยังจะพยายามเอามาใช้ โดยไม่เคยคิดเอาของต่างชาติมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับความเป็นไทย เวลาเด็กเอาอย่างต่างชาติ ผู้ใหญ่บอก "แย่" แต่พอผู้ใหญ่เลียนแบบต่างชาติ กลับบอกว่า "เยี่ยม" ทั้งๆ ที่บางครั้งมันก็แย่พอๆ กันแหละ เอา "เยี่ยง" แต่อย่าเอา "อย่าง" ได้ไหม? (คำกล่าวของคุณทรงวุฒิ มลิวัลย์ ผมอ่านหลายรอบแล้วชอบมาก)
ลองดูแววตาของพวกเขาเหล่านี้ดูซิ พวกคุณครูทั้งหลาย รวมทั้งท่านผู้ใหญ่ในบ้านนี้ เมืองนี้ กำลังต้องการอะไรกันแน่ เรากำลังเอาชีวิตทั้งชีวิตของพวกเขามาเป็นเดิมพัน กับวิธีของพวกผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมรับความเป็นไทยเท่านั้นหรือ?
ถ้าเราคิดจะช่วยกันพัฒนาชาติ พัฒนาเยาวชนเหล่านี้ เรามาถอยหลังเข้าคลองกันดีกว่า ถอยกลับไปก่อนการปฏิลูบคลำการศึกษาจะเกิด ถอยไปก่อนจะมายุบรวมกันเป็น สพฐ. ซึ่งเรามีความถนัด ความชำนาญอย่างไรก็ช่วยกันทำให้เต็มความสามารถ แล้วเราจะไม่ต้องมาทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างวันนี้แน่นอน
คงจะยุติการวิพากษ์เรื่องร้อนๆ ไว้เพียงเท่านี้ ขอวกกลับมาถึง "การถอยหลังเข้าคลองก่อนการปฏิรูป" สักเล็กน้อยเพราะผมไปอ่านข่าวเรื่อง เด็กไทยท่อง ก-ฮ ไม่ได้ กระเทือนความมั่นคงรัฐสยาม (จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก แล้วอึ้งครับ) ผลสำรวจของ กระทรวงวัฒนธรรม กับ สถาบันรามจิตติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ชี้ชัดว่าเด็กไทยร้อยละ 24.4 ท่อง ก-ฮ ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวพยัญชนะไทยเหล่านี้ พ่อขุนรามคำแหงทรงประดิษฐ์ไว้เป็นมรดกมากว่า 700 ปี ถือเป็นความโชคดีของชนชาติไทย เมื่อเทียบกับบางประเทศที่ไม่มีแม้แต่ภาษาของตัวเอง
นี่คือความจริงจากผลการสำรวจ "เด็กไทยร้อยละ 43.9 ออกเสียงควบกล้ำไม่ชัด ร้อยละ 24.4 บอกว่าท่อง ก-ฮ ไม่ได้ ร้อยละ 32 สะกดคำในภาษาไทยผิดเป็นประจำ ร้อยละ 42.8 มีปัญหาในการนึกคำหรือภาษาสวยๆ ไม่ออก และร้อยละ 56.5 บอกว่ามีปัญหาเวลาที่จะนึกอะไรยาวๆ ร้อยละ 53.9 มีปัญหาวิชาเรียงความ แต่ยังมีเด็กถึงร้อยละ 83.2 ที่ชอบวิชาภาษาไทย นอกจากนี้ เด็กไทยร้อยละ 36 ชอบชื่อฝรั่งมากกว่าชื่อไทย ร้อยละ 35.2 บอกว่าชื่อร้านเท่ๆ ต้องเป็นภาษาฝรั่ง "
มีข้อคิดและคำวิจารณ์จากปราชญ์หลายๆ ท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งผมขอแสดงทัศนะบ้างในฐานะเป็นผลผลิตของ หลักสูตรการศึกษาชาติ 2503 ในอดีตนั้นการท่องจำพยัญชนะจาก ก. ไก่ ถึง ฮ. นกฮูก นั้นเป็นทำนองเสนาะที่ไพเราะคล้องจองกัน มีบทอาขยานที่นำมาจากบทร้อยกรองเรื่องต่างๆ ที่มีความงดงามทางภาษา และขาดไม่ได้ สูตรคูณ ครับ ทำให้เราคิดเลขได้เร็ว ดูเหมือนเราจะมีการสอบคณิตคิดในใจด้วยนะในอดีตโน้น
เราจะต้องย้อนกลับมาใช้ "การท่องจำ" นี่อีกสักครั้งเถิด แล้วสอนให้เขาคิดใช้ทักษะไปพร้อมกันด้วย ทุกวันนี้เรามุ่งแต่จะให้เขาไปอย่างรวดเร็ว ขาดการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนบรรยายความรู้สึกออกมาให้ได้ ให้เขาได้เขียนเรียงความ อ่านแล้วจับใจความ ย่อความ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นผลพวงมาจากการจัดการเรียนการสอนของระบบใหม่ และการใช้ข้อสอบแบบปรนัยนั่นเอง ในปัจจุบันนี้จะมีแต่ การสอบชิงทุนเล่าเรียนหลวง ทุนรัฐบาลเท่านั้นกระมังที่มีการสอบเป็นข้อเขียนแบบอัตนัยทั้งหมด ซึ่งสามารถวัดความรู้ ความสามารถ และกึ๋นอันแท้จริงของนักเรียนไทยได้จริงๆ
คราวนี้เรามาดูหลักสูตรวันนี้กันหน่อยดีไหม? ผมขอเรียกว่า หลักสูตรจับฉ่าย เพราะโดยความจริงแล้วการที่ให้ครูได้รับการอบรมจากแม่ไก่ที่ไม่เคยบิน (อ่านเรื่องเดิมที่นี่) แล้วเราก็มาสร้างหลักสูตรกันนั้น จะเอาอะไรดีๆ มาจากไหน ก็ได้แต่คว้านั่นมาผสมนี่ เอาตำราเล่มนั้นมาผสมเล่มนี้ กลายเป็นหลักสูตรจับฉ่ายในปัจจุบัน ซึ่งมันก็มีที่มาที่ไปจากหลักสูตรเดิมๆ นั่นแหละ จะมีบ้างในบางกลุ่มสาระที่มีหน่วยงานหรือองค์กรหลักคอยกำกับดูแล ก็จะมีความพร้อมและพัฒนาไปมากกว่าและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน (กรณี สสวท. กำกับดูแลสาระด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์) ส่วนกลุ่มอื่นๆ นั้นดูจะสับสนอลหม่านในภาพรวมของประเทศ
"ทุกวันนี้ระบบการเรียนการสอนของไทย สอนให้คนกลายเป็นคนไม่เก่ง เพราะคนที่จะเก่งในระบบการศึกษาไทยนั้นจะต้องเป็นคนที่มีคะแนนสูง เป็นคนที่ท่องตำราเก่ง ท่องสูตรเก่ง โดยที่คนอื่นๆ กลายเป็นคนด้อยหมด ซึ่งเป็นการทำลายศักยภาพของคน แต่ถ้าหากเราเข้าใจว่าทุกคนมีความรู้ ความสามารถที่ต่างกันไป โดยที่ไม่ยึดความรู้จากตำราเป็นตัวตั้ง จะทำให้นำไปสู่ความสำเร็จในหลายอย่าง รวมทั้งในเรื่องของการปฏิรูปการศึกษาด้วย ความรู้จากตำราก็มีความสำคัญ แต่ควรวางความสำคัญให้ถูก โดยใช้ความรู้ของคนเป็นตัวฐาน และใช้ความรู้จากตำรามาต่อ ยอดตามความเหมาะสมของแต่ละคน" ศ.นพ.ประเวศ วะสี ท่าน กล่าวไว้ได้น่าคิด
ยังไม่มีบทสรุปในวันนี้ ตราบใดที่พวกเรายังไม่มองที่ตนเอง ยังคงมองที่อื่น แล้วอยากจะลอกแบบเขามา โดยไม่ดูบริบทของสังคมไทย ในหลายเดือนก่อนก็ฮือฮาเรื่องโน้ตบุ๊ค 100 เหรียญ ที่ยังไม่เคยคิดและประเมินถึงประโยชน์ของมันแต่ดันอยากจะแจก เรียกว่าผู้ใช้ไม่ต้องการ ดีมานด์ยังไม่มี สื่อหรือซัพพลายยังไม่เกิด แต่ฉันจะยัดเยียดให้ (จะเอามาทำประโยชน์อะไรได้ก็ไม่รู้) มาเมื่อสัปดาห์ก่อนมาอีกแล้ว Triple Play แนวคิดการนำเอาเทคโนโลยีเป็นระบบที่ข้อมูลเสียงและภาพอยู่ด้วยกัน ผ่านกล่องเดียวกัน เป็นแนวทางที่นำโทรศัพท์และทีวี โทรคมนาคมกับทีวี มารวมเป็นหนึ่ง แล้วนำระบบนี้ไปติดตั้งใช้เรียนรู้ (เลียนแบบโรงเรียนกวดวิชาชื่อดังที่ส่งเทปไปสอนนั่นแหละ) แต่ถ้าครูมองดีๆ สื่อเหล่านี้มันอยู่ในมือใครหนอ? ทั้งสองโครงการเลยเนี่ย!!!
เหนื่อยหน่ายหัวใจจริงๆ ครับกับการทำงานราชการในวันนี้ ถ้า... ลูกสำเร็จการศึกษามีการงานทำที่มั่นคง ก็คงจะถึงเวลาอำลาไปเสียที ขอที่สงบเงียบสักแห่งในประเทศนี้ เขียนหนังสือเล่าประสบการณ์ชีวิต หรือทำอะไรเพื่อสนองความต้องการส่วนลึกคือรักษามรดกอีสานไว้สืบไป... นี่คือความหวังและตั้งใจหนึ่งเดียวที่ผมมีอยู่ ก่อนสิ้นปีคงได้คุย (บ่น) อีกสักเรื่องครับ
ครูมนตรี โคตรคันทา
บันทึกไว้เมื่อ : 2 ธันวาคม 2548
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)