foto1
ความงดงามการศึกษาไทย
foto1
เพื่อ?
foto1
ไม่เข้าใจ?
foto1
วิทยากรที่กระทรวงศึกษาธิการ สปป.ลาว
foto1
ท่องทะเลทรายที่ดูไบ UAE


Friendly Links

เรียนรู้ภาษา html
isangate banner
easyhome banner
ipst banner
sakdibhornssup foundation
13 Thai free fonts
speedtest
e mil

Facebook Likebox

No. of Page View

webmaster talk

sec2005 08ไม่ได้อัพเดทนานเกือบเดือนแนะครับ มีหลายๆ เรื่องที่ผมเขียนไว้ล่วงหน้ามาสักสองสามอาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่ได้นำมาบอกกล่าว ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองพูดแรงไปหน่อย และช่วงนั้นผมก็มีภารกิจที่จะต้องเดินทาง ไปเยี่ยมชมกิจการการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ในโรงเรียนที่ได้ทำสำเร็จมาแล้ว และเราอยากจะนำรูปแบบนั้นมาพัฒนาศักยภาพของนักเรียนเรา (พูดกันง่ายๆ เราอยากเรียนรู้วิธีการเจียรนัยเพชรนั่นแหละครับ)

พอช่วงวันเข้าพรรษาผมก็เข้ากรุงเทพฯ อีกรอบคราวนี้ไปเยี่ยมลูกๆ ที่เรียนหนังสืออยู่ที่นั่น (เลยไม่ได้อยู่ต้อนรับเพื่อนฝูงที่ไปแวะเยี่ยมในงานเทศกาลแห่เทียนพรรษา) และช่วงวันที่ 1 - 4 สิงหาคมนี้ ก็จะเข้าไปร่วมเป็นกรรมการตัดสิน การแข่งขันเขียนโปรแกรมควบคุมบังคับหุ่นยนต์ ระดับมัธยมศึกษา ที่ ศูนย์กลางการเรียนรู้ไอซีทีแห่งชาติ ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า กรุงเทพฯ อีกรอบ (ชีพจรลงเท้าจริงๆ เลยครับ)

เห็นข่าวพาดหัวว่า "อาจารย์ 2 ระดับ 7 ได้เฮ อดิศัยเอาใจ ประเมินอาจารย์ 2 ระดับ 7 เข้าสู่แท่งครูชำนาญการ และได้รับเงินวิทยฐานะเดือนละ 3,500 บาท โดยจะให้ครูที่มีอายุราชการมากกว่าเข้ารับการอบรมก่อน" ก็นับเป็นข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ หลายคน เห็นบางคนตื่นเต้นรื้อแฟ้มกระจายออกมาอีกแล้ว เฮ้อเหนื่อยแทนจริง... ครับ

ไม่ทราบว่า เพื่อนครูใน สพฐ. ปัจจุบันนี้จะมีความรู้สึกอย่างผมหรือไม่? มีความรู้สึกเบื่อหน่ายกับบรรยากาศรอบข้าง สังเกตเพื่อนร่วมงานแล้วมีความรู้สึกว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเท่านั้น งดการอาสาในเรื่องอื่นๆ (เหมือนกับว่า ธุระไม่ใช่ฉันไม่สนใจ) จะเหลือกลุ่มคนที่ทำงานไม่ย่อท้ออยู่ไม่กี่คน ในโรงเรียนจนเหมือนคนบ้า มองไปที่ผู้บริหารหลายๆ คนก็ระวังตัวแจ จนดูเหมือนจะไม่มีความคิดริเริ่มในการพัฒนา นั่งกินบุญเก่าที่คนอื่นสร้างสมมาแล้ว ที่หนักกว่านั้นคือไม่คิด ไม่ทำแล้วยังขวางความเจริญก้าวหน้าเสียอีกแนะ เข้าทำนองไม่พัฒนาแล้วยังนอนขวางไว้เสียอีก อ้างแต่ว่าไม่มีงบประมาณบ้างล่ะ บ้างก็อ้างว่าผมจะเกษียณกันยานี้หรือกันยาหน้า (แล้วทำไมไม่รีบลาออกไปเสียเลย ให้คนอื่นที่เขาอยากทำงานมาอยู่ในตำแหน่งนี้เสียเถอะ จะมาอยู่กินเงินภาษีผมอยู่ทำไมไม่รู้)

student 03อีกเรื่องหนึ่งที่ผมไปพบมาและสะท้อนให้เห็นว่า ความจริงของจำนวนนักเรียนต่อห้อง ที่ทำให้การจัดการศึกษาสัมฤทธิผลได้นั้น ไม่ควรเกิน 30 คน ไม่ใช่ 55-60 คนอย่างที่ผมพบในวันนี้ เป็นเรื่องแปลกที่ลองย้อนกลับไปดูในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติทุก พ.ศ. ที่ผ่านมาจวบปัจจุบัน ไม่มีการระบุจำนวนนักเรียน ขนาดโรงเรียนไว้เลย ในขณะที่นานาอารยะประเทศที่นักการศึกษาไทยทั้งหลายพยายามจะเอาของเขา มาเป็นแบบอย่างนั้นเขาระบุไว้ชัดเจน ที่ผมไปพบนี่ไม่ใช่เมืองนอกเมืองนานะครับ อยู่แถวๆ นครปฐมนี่แหละ 24 คนต่อห้อง กับรายหัวระดับ 42,000 บาทต่อคน เทียบกับ 2,800 บาทและแออัดแบบเล้าหมูดูซิครับ ถ้าทำได้ไม่เลิศสะแมนแตนล่ะก็เสียดายงบประมาณ และภาษีราษฎรมากเลยล่ะ

ที่ผมแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งคือ ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่ได้ กับ วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโรงเรียนไม่สัมพันธ์กัน เพราะวัตถุประสงค์คือ การสร้างนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยให้กับประเทศ เพราะเราขาดแคลนมาก โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์สายตรง ผมดูจากผลการไปศึกษาต่อของนักเรียนแล้วพบว่า มีจำนวนไม่น้อยไปเรียนสายวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น สายแพทย์ วิศวกร สถาปนิก บัญชี แม้แต่สาขารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ในมุมมองของผมนั้นผมคิดว่า คนกลุ่มนี้เอาเปรียบ (กลุ่มที่ไม่เรียนสายตรงนี่นะครับ) เพราะเราได้ทุ่มเทงบประมาณจากภาษีอากรลงไปถึง 42,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อให้เรียนวิทยาศาสตร์และก้าวไปเป็นนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์สายตรงเพื่อการพัฒนาประเทศ ถ้าจะเรียนสายอ้อมคนอื่นๆ ที่เขาเรียนในโรงเรียนธรรมดา ได้รับงบอุดหนุนสองพันกว่าบาทก็ทำได้ ผมไม่ค้านการจัดตั้งโรงเรียนนี้ แต่ขอเสนอแนะวิธีการผูกมัดในการชดใช้ทุนคืนหากผู้เรียนไม่เรียนตรงสาขาตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง จะทำให้ประเทศชาติได้ผลสำเร็จจากโครงการมากกว่านี้

kunpra 1เอาเรื่องไม่ซีเรียสกันบ้างนะครับ ผมอยากจะพูดถึงรายการโทรทัศน์สักสองรายการ ที่อยากให้เพื่อนครูได้ดูกัน และแนะนำให้นักเรียนได้ดูด้วย รายการแรกนี่ออกอากาศทุกวันจันทร์ "คุณพระช่วย" รายการวาไรตี้เพื่อคนไทยที่ชวนติดตามมากที่สุด มีเรื่องราวมากมายที่เรายังไม่รู้แม้ว่าเราจะบอกว่า เราคือคนไทยจริงๆ ก็ตาม ทั้งทางด้านวรรณกรรม ศิลปกรรม ประเพณี วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยเรา มีช่วงของการประชันความสามารถของเยาวชนในเรื่องต่างๆ เช่น ประชันดนตรีไทยหลากหลายสาขา การประชันบทกลอน

tamroy budhaอีกรายการหนึ่ง คือ สารคดีชุด "ตามรอยพระพุทธเจ้า" ด้วยเป็นสารคดีของคนไทย ที่ตอบคำถามอยากรู้ของคนไทยที่มีต่อพระพุทธเจ้า และพุทธศาสนา ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 20.30 - 21.30 ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ดำเนินการผลิตโดย Panorama Worldwide ทีมงานมืออาชีพด้านการผลิตสารคดีของไทยที่มีผลงานน่าติดตามมากมายครับ

ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับรายการทีวีเหล่านี้นะครับ เพียงแต่อยากให้ครูเราได้มีสื่อดีๆ ได้ชม แล้วนำไปบอกกล่าวกับนักเรียนในยุคของโลกาภิวัฒน์ ที่แทบจะยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่นี้ ให้หันกลับมามองรากเหง้าวัฒนธรรมของไทยเรา มากกว่าการชื่นชมละครน้ำเน่าทั้งของไทย ญี่ปุ่น เกาหลี นะครับ

วันนี้คุยเรื่อยเปื่ยไปตามที่นึกขึ้นมาได้ เพื่อลดความเดือดในหัวใจเท่านั้นแหละ และขอขอบคุณ รายการโทรทัศน์ e-Life and e-Business ทางสถานีช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี ที่ได้แนะนำเว็บไซต์ ครูมนตรีดอทคอม ทางรายการเมื่อวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมาครับ จนทำให้มีเพื่อนครูหลายท่านส่งใบสมัครมาร่วมอุดมการณ์กันหลายคน ผมขอเวลาในการดำเนินการอีกนิดหนึ่งนะครับ หลังจากกลับจากกรุงเทพฯ เที่ยวนี้จะแจ้งกลับไปยังทุกท่าน ขอบคุณอีกครั้งครับ

ครูมนตรี โคตรคันทา
บันทึกไว้เมื่อ : 30 กรกฎาคม 2548

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Our Policy