วันนี้เป็น "วันครู" ก็ต้องขอกราบคารวะคุณครูทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ได้ประสาทวิชาความรู้ให้กับผม ทั้งที่สอนโดยตรงและสอนโดยอ้อม จนผมมีวันนี้ที่สุขใจได้ถ่ายทอดความรู้ตามรอยท่านตลอดมา และคงจะตลอดไปครับ
ครู คือ ความหนักหนาสาหัสจริงๆ ใน พ.ศ. นี้ เพราะว่าไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ สำคัญหรือไม่สำคัญ ครูจะต้องถูกดึงกระชากลากถูเข้าไปเกี่ยวข้องมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม การปราบปรามยาเสพติด การเลือกตั้ง (ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า) และตอนนี้คงจะฮอตฮิตกันหน่อยก็เรื่อง "ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู" ที่จะต้องดำเนินการกันให้แล้วเสร็จโดยเร่งด่วน (ข่าวมาว่าอย่างนั้น) เราจะได้ประโยชน์อะไรจากใบอนุญาตนี้ สภาการวิชาชีพครู จะช่วยเหลือพัฒนาศักยภาพของครูไทยได้เพียงใด หรือจะเป็นแค่นายหน้าหาผลประโยชน์จากครู ก็คงต้องพิสูจน์กันต่อไป
วันนี้ได้อ่านหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ไปเจอจดหมายเพื่อนครูท่านหนึ่งเขียนถึงอาจารย์แม่ (สุนีย์ สินธุเดชะ) ถึงภาระอันหนักอึ้งของครู ในความเป็นจริงที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับที่สังคมรับรู้ ผมอ่านแล้วก็ได้แต่สะท้อนใจ เพราะมันเรื่องจริงทั้งนั้น ครูเราอ่อนการสอนจริงๆ ครับ เพราะเราถูกสั่งให้ทำงานนอกเหนือหน้าที่มากเกินไป ตั้งแต่นักจิตวิทยา นักสังคมสังเคราะห์ นักบุญ เป็นพ่อแม่ของเด็กหลายร้อยคน เป็นตำรวจตรวจหายาเสพติด เป็นหมอบำบัดคนติดยา อะไรกันนักหนาทำแล้วต้องรายงานกันอีก (นี่มันงานเลขานุการ ธุรการ เอาเข้าไป คนได้หน้าใครล่ะนี่) แล้วจะเอาเวลาไหนมาสอนเด็ก เตรียมการสอน ทำใบความรู้ ใบงาน กิจกรรมสารพัด นั่นกำลังจะมาประเมินอีกล่ะซิ (สิ่งที่ทำไม่ประเมิน จะประเมินสิ่งอื่นๆ อีก เอาเข้าไป)
เมื่อครูมีภาระงานมากขึ้นนอกเหนือจากการสอน ซึ่งเป็นหน้าที่หลักจะพบว่า ครูต้องเตรียนรับการประเมิน ทำงานธุรการ การเงิน พัสดุ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องยอมรับว่า ภาระครูที่หนักเกินกว่าจะรับได้นั้น ทำให้ครูแห่เข้า "โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด" จำนวนมาก ทุกครั้งที่รัฐบาลเปิดโครงการ ที่สำคัญเมื่อครูออกจากระบบไปอัตราที่มีอยู่ก็ไม่ได้รับบรรจุทดแทน ทำให้ครูที่เหลืออยู่ยิ่งแบกรับภาระมากขึ้นอีกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลายก็ได้แต่พล่ามว่า จะพัฒนาครู ช่วยเหลือครู นำระบบการเรียนการสอนใหม่ๆ มาใช้ให้มากขึ้น แต่ในความจริงแล้วทุกอย่างมีแต่ความเงียบ เหมือนไฟไหม้ฟาง เหมือนสึนามิที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ทิ้งไว้แต่ความเจ็บช้ำ ไร้การเยียวยา (ปีใหม่ผ่านมาแล้วไม่อยากพูดเรื่องนี้เลย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นครับ)
วันนี้ได้อ่านผลสำรวจข้อมูลและความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่มีต่อครู ในหัวข้อ "ภาพสะท้อนครูไทยในสายตาศิษย์" ซึ่งจัดทำโดย ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ อยากให้เพื่อนครูได้ตระหนักถึงความคิดเห็นของเยาวชนที่มีต่อครูในยุคปัจจุบัน การสำรวจใช้ประเด็นต่อไปนี้
ที่มา : http://research.bu.ac.th/poll/poll_list.php
นึกคิดยังไงกันบ้างครับ กับผลสำรวจความคิดเห็นเหล่านี้ สำหรับผมยอมรับในความเป็นจริง และบางอย่างอาจจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำในเรื่องความเชื่อมั่นของเด็กที่มีต่อครู เพราะเราคงเคยได้ยิน ได้เห็นกันบ่อยๆ กับพฤติกรรมของบุคคลส่วนหนึ่งที่แฝงเร้นอยู่ในวงการวิชาชีพครู ที่เป็นเหลือบหากินกับครูด้วยกันเอง (บั่นทอนกำลังใจด้วยเรื่องเงินทองและงาน ทั้งๆ ที่เป็นงานต้องทำในหน้าที่) หากินกับเด็กด้วยการทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพในโรงเรียน อยากรู้มากต้องไปเรียนพิเศษกับครู
ไหนๆ ก็วันครูเวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนครูของเราที่ตั้งใจและเสียสละ อย่าพึ่งท้อแท้กันเสียก่อนนะครับ มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ มีความสุขตลอดไป เป็นพลังในการสร้างเยาวชนเพื่อพัฒนาชาติกันต่อไป แม้เขาจะเห็นเราเป็นแค่ "เรือจ้าง" ก็ตาม...
ครูมนตรี โคตรคันทา
บันทึกไว้เมื่อ : 16 มกราคม 2548
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)