ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ท่านทั้งหลายทั่วกัน และขอขอบใจท่านเป็นอย่างยิ่งที่มีไมตรีจิต สนับสนุนข้าพเจ้า ในภารกิจทั้งปวงด้วยดีเสมอมา
ตลอดปีที่แล้ว มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายอย่าง ที่ดีก็คือ การที่นักกีฬาของเราได้รับเหรียญรางวัลหลายประเภท ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แต่ที่ไม่ดีก็มีอยู่มาก เราต้องประสบกับเหตุไม่ปกติต่างๆ จนทำให้เกิดความวิตกห่วงใยกันอยู่ทั่วไป ใกล้ถึงสิ้นปีก็เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ทำให้สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินอย่างร้ายแรง เราคงจะต้องช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูสถานะของบ้านเมืองเป็นการใหญ่ รวมทั้งหาทางป้องกันเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม เหตุต่างๆ ทั้งนั้น ได้ทำให้เห็นแจ้งถึง "น้ำใจ" ของพวกเราอย่างเด่นชัด ว่าทุกคนในผืนแผ่นดินไทย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน มีความสามัคคีกัน ต่างห่วงใยกันด้วยใจจริง ได้แสดงเจตนารมย์ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติสุข และเมื่อเกิดภัยพิบัติ คนไทยไม่ทิ้งกัน ต่างพร้อมเพรียงกันเข้าปฏิบัติช่วยเหลือทันที ด้วยความเสียสละและเมตตาจริงใจ ไม่เลือกว่าเป็นชาวไทย หรือชาวต่างประเทศ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวย้ำแก่ท่านทั้งหลาย เหมือนดังที่เคยกล่าวมาเมื่อหลายปีก่อนว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้น จะให้มีแต่ความปกติสุขอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องมีทุกข์ มีภัยผ่านเข้ามาด้วยเสมอ ยากจะหลีกเลี่ยงพ้น
ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงขอให้ทุกคนรักษาความสามัคคี และจิตใจอันดีนี้ไว้เป็นนิตย์ เพราะสิ่งนี้คือ คุณลักษณะอันพิเศษที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองของเราอยู่รอดปลอดภัย และช่วยให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุขมาช้านาน ตราบใดที่เราทั้งหลายรักษาคุณลักษณะนี้ไว้ได้ ก็มั่นใจได้ว่าชาติบ้านเมืองของเราจะดำรง มั่นคงอยู่ตราบนั้น
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ชาวไทยเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และประสบแต่สิ่งที่พึงประสงค์ตลอดศกหน้านี้ โดยทั่วกัน
ในวาระดีถีขึ้นปีใหม่นี้ คงจะไม่มีพรใดจะยิ่งใหญ่กว่าพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานให้กับปวงชนชาวไทย ในวันเริ่มปีใหม่ 2548 ที่ผ่านมา ความรักและสามัคคีของคนไทยในชาติ ย่อมจะนำพาประเทศชาติให้เจริญ มั่นคงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร และถ้าพวกเราเหล่าครูไทยจะได้น้อมนำเอา พระราชดำรัสดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาการศึกษาต่อไป ย่อมจะส่งผลดีต่ออนาคตลูกหลานของเราต่อไป
ช่วงก่อนปีใหม่ก็มีเหตุให้ต้องเดินทางจากอุบลราชธานีเข้ากรุงเทพฯ ด้วยภารกิจส่วนตัวเร่งด่วน (งานสีดำ) ทำให้ไม่สามารถอัพเดทบอกกล่าวกันก่อนสิ้นปี เสร็จภารกิจที่กรุงเทพฯ ก็เดินทางต่อพร้อมครอบครัวไปที่จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่คนทำงานทั้งหลายกำลังกลับบ้านเกิดเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่กับครอบครัวญาติมิตรกัน รถราในท้องถนนก็เลยติดขัดในช่วงออกจากกรุงเทพฯ ไปจนถึงชัยนาท หลังจากนั้นก็ค่อยสะดวกขึ้น ผมไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่น้องชายพร้อมรับปีใหม่ที่นั่นครับ ได้บรรยากาศต่างจากปีก่อน เพราะเรายังคงเศร้าสลดกับเหตุการณ์ธรณีพิบัติที่ภาคใต้ (Tsunami) ก็เลยมีเวลาพักผ่อนจริงๆ ได้นั่งคิดทบทวนถึงชีวิตในรอบปีที่ผ่านมา และที่จะทำต่อไปในอนาคตข้างหน้า
ความตั้งใจในอดีตที่เกินตัว ทำให้ผลสัมฤทธิ์ที่ได้ไม่เป็นดั่งความหวังมากนัก ในอดีตความคิดของผมนั้นผิดพลาดไปมากที่คิดไปว่า การออกแบบจัดทำระบบเป็นเรื่องยากที่เราจะเข้าใจ และทำมันได้สำเร็จอย่างการทำระบบ e-Learning ที่ผ่านมา แต่หลังจากได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจลงไปตรงนั้น จึงได้พบว่าสิ่งที่ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งกว่า กลับกลายเป็น "การสร้างคนเพื่อมาพัฒนาบทเรียน" ต่างหากที่ยากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร หรือเข็นครกขึ้นภูเขา
ต่อคำถามของเพื่อนที่ว่า ท้อไหม? จะเลิกทำหรือยัง? คงต้องบอกว่า ผมยังไม่ท้อและมั่นคงในการทำงานนี่้ ที่จะต้องทำต่อไปแม้จะช้าก็อาจได้พร้าเล่มงามก็ได้ใครจะรู้ มีเพื่อนหลายๆ ท่านสนใจอยากร่วมคิดร่วมทำกับผมก็ยังยินดีเหมือนเดิมนะครับ ทั้งโทรศัพท์มาสอบถาม ส่งอีเมล์มาถึงได้พูดคุยกันทำให้มีกำลังใจมากขึ้น
ท่านที่ได้สมัครเข้าร่วมขบวนการผ่านทางหน้าเว็บไซต์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2547 ถ้าจะกรุณาได้สมัครใหม่ก็จะเป็นการดีครับ เพราะระบบเมล์ผมโดนไวรัสโจมตี จนข้อมูลเสียหายกู้คืนมาได้ก็แบบสะเปะสะปะ อ่านไม่เข้าใจ ขาดหายในส่วนสาระสำคัญตอนนี้ได้จัดการใหม่เรียบร้อยแล้ว และขอแจ้งให้ทราบว่า การสมัครผ่านระบบนั้น ผมจะนำรายชื่อท่านเข้าไปในทำเนียบครูประจำชั้น ถ้าหากท่านตรวจสอบแล้วข้อมูลถูกต้อง กรุณาส่งอีเมล์ถึงผมโดยตรงอีกครั้ง ถ้าต้องการสร้างบทเรียนออนไลน์ หรือเฉพาะการสร้างแบบทดสอบออนไลน์ (เรามี 2 ระบบที่ฐานข้อมูลแยกกันครับ) ให้แจ้งผมด้วยครับ
ข่าวฝากประชาสัมพันธ์จาก สสวท. เรื่อง การอบรมครูผู้สอนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ระหว่างวันที่ 25 - 29 เมษายน 2548 จำนวน 20 ศูนย์ทั่วประเทศ (ศูนย์อุบลฯ ที่ผมรับผิดชอบเป็นระดับมัธยมศึกษา) ท่านที่สนใจ และยังไม่เคยผ่านการอบรมหลักสูตร สสวท. โดย วิทยากรแกนนำ มาก่อนสามารถสมัครได้ รายละเอียดต่างๆ จะแจ้งให้ทราบในคราวต่อไปนะครับ (ผมจะไปประชุมฟังคำชี้แจงรายละเอียดวันที่ 17-18 มกราคมนี้)
นอกจากนี้ ยังมี ค่ายยุวคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนระดับชั้น ม.1 และ ม. 2 ที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ และการแข่งขันการพัฒนาซอฟท์แวร์ โครงงาน และการเขียนโปรแกรมควบคุมบังคับหุ่นยนต์ ที่น่าสนใจสำหรับนักเรียนอีกหลายรายการ ไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ของสาขาคอมพิวเตอร์ สสวท. ครับ
ครูมนตรี โคตรคันทา
บันทึกไว้เมื่อ : 4 มกราคม 2548
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)