ปฏิรูปหรือปฏิลูบ (คลำ) การศึกษาไทย

หลายๆ ท่านพยายามถามผมว่า มีความเห็นอย่างไรกับการปฏิลูบ (คลำ) การศึกษาในวันนี้ ก็คงจะมีคำตอบที่ไปกระทบใจหลายๆ ท่านพอสมควรครับ

เหมือนตาบอดคลำช้าง บ้างก็เจองวง บ้างก็เจองา บ้างก็เจอขาหน้าหรือขาหลัง แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือเจอหางครับ พอไปกระตุกเข้า อุจจาระก็เลยร่วงลงมากองเบ้อเริ่ม (อันนี้ผมไม่ได้ตอบเองหรอก เพื่อนผม "อดีตศึกษาธิการอำเภอ" ตอบมาด้วยความขมขื่น ตอนนี้เพื่อนปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพลขับประจำสำนักงานเขตพื้นที่ด้วยความวังเวงในโชคชะตา)

นั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พบเห็นได้ และที่ผมไม่นึกว่าจะได้พบในยุคการปฏิรูปนี้ก็ยังพบอีกจนได้ พบมากและยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้เพราะไม่มียาดี สงสัยใช่ไหมครับว่าพบอะไร? โรคร้ายแน่ๆ ครับ แม้จะไม่เท่ากับเชื้อราที่อยู่ในสมองนายบิ๊กดีทูบี แต่ก็ไม่น่าจะยิ่งหย่อนกว่ากันเสียด้วย

โรคฝีที่ใต้รักแร้ ครับท่าน ผมเห็นข้าราชการที่ปฏิบัติงานบนสำนักงานเขตพื้นที่หลายแห่งเป็นกันมากครับ สังเกตได้ง่ายๆ ท่านที่ยกแขนกร่างเดินไปบ่นไป ถ้าเจอหน้าครูน้อยในโรงเรียนเดินขึ้นมาบนสำนักงานนี่จะเกิดอาการแสลงอย่างยิ่ง ต้องกล่าวถ้อยคำที่ไม่ระรื่นหูออกมาให้ได้ยินในทำนองว่า มาขัดขวางการปฏิรูประบบราชการของท่าน (เพราะยังหาที่นั่งไม่เจอ จะให้บริการยังไงฟ่ะ ตัวเองยังจะไม่รอดเลย)

พอดีครูน้อยท่านนั้นจะไปขอใบรับรองเงินเดือนเพื่อจองซื้อโน้ตบุ๊คข้าราชการ (ตามคำยุของครูมนตรี) เอามาเล่าให้ฟังครับ ก็เลยเกิดอาการเป็นห่วงสุขภาพของท่านเหล่านั้นกลัวจะไม่รอดถึงปีงบประมาณหน้าครับ นอกจากนั้นยังได้ยินข่าวมาอีก (ไม่ยืนยัน แต่ให้ลองไปสังเกตที่พื้นที่ใกล้บ้านท่าน) ว่า หนังสือราชการหนึ่งฉบับไม่ว่าจะประทับตราว่า ด่วน ด่วนมาก ด่วนที่สุด หรือแม้แต่ ด่วนฉิบหาย ก็จะใช้เวลาเดินทางผ่านโต๊ะข้าราชการที่เป็นฝีที่ใต้รักแร้อย่างเร็ว 3 วันทำการ อย่างช้า 1 สัปดาห์ ซึ่งอันนี้ก็น่าเห็นใจท่านอยู่เพราะว่า ลงลายมือชื่อเสนอผ่านลำบากมาก (คนเป็นฝีนะ เข้าใจไหม? หา!!!!!) ขอรับกระผมทราบแล้วครับ

ถ้าไม่เชื่อครูมนตรี หาว่ามีอคติเพราะไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโตในหน้าที่เสมียนน้อยอย่างท่าน ก็ขอเชิญไปอ่านกันได้ที่นี่นะครับ จะมองเห็นภาพพจน์ของการปฏิลูบ (คลำ) ได้ชัดยิ่งขึ้น ก็ที่นี่ไง เว็บบอร์ดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

แล้วก็พบกับข่าวที่น่าสะเทือนใจอีกครั้ง กับพฤติกรรมนักเรียนนักเลงที่ยกพวกตลุมบอนกันในงานคอนเสิร์ตใหญ่ในกรุงเทพมหานคร สายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ครูอีกแล้ว ไอ้พวกนักเรียนที่ครูไม่สั่งสอน! (หรือเปล่า?) ครูก็คงจะเป็นเบี้ยที่ถูกจับมาให้เดินอีกครั้งด้วยมาตรการอะไรก็ได้ที่รัฐมนตรีที่รับผิดชอบคิดออก เพื่อสนองนโยบาย หลังจากปราบยาบ้ามาพักหนึ่ง ผมชอบใจที่ครูหยุย (ท่าน สว.) ออกมาให้สัมภาษณ์ทางทีวีมากทีเดียว เพราะผู้ใหญ่กำลังยัดเยียดวัฒนธรรมงี่เง่าให้เขาโดยเอาผลประโยชน์ของเอกชนมาบังหน้า (รายละเอียดลองไปหาอ่านกันเอาเองครับ) ผมกลัวจริงๆ กลัวว่าครูจะได้รับบทหนักอีกรอบ

หลายวันก่อนได้ยินวาทะเด็ดๆ นี้มาครับ "ครูในยุคปฏิรูปนี่ต้องเก่งทุกอย่างครับ การทำเอกสารรายงาน เป็นตำรวจตรวจยาเสพติด เป็นหมออนามัยตรวจสุขภาพ เป็นหลวงพ่อหล่อหลอมจริยธรรม ไม่เป็นอยู่อย่างเดียวคือ "สอนหนังสือ" เพราะไม่มีเวลาสอน มัวแต่กรอกรายงาน" จริงไม่จริงคงต้องไปวิเคราะห์กันเอาเองแล้วครับ

ครูมนตรี     
บันทึกไว้เมื่อ : 2 กันยายน 2546