โดย : รองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ
อยากทำความเข้าใจกับคุณครู ที่จะมีบทบาทในวิชานี้สักเล็กน้อย การศึกษาใน K12 จากเกรดหนึ่งถึงสิบสอง เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน เหมือนที่เราเรียนวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย พละ เรียนภาษาที่สอง หรือวิชาอื่นๆ ที่มีในหลักสูตร การศึกษาพื้นฐานใน K12 ต้องการสร้างความพร้อมของคน ที่จะไปมีชีวิตอย่างมีความสุขในอนาคต หรือพร้อมที่จะประกอบอาชีพอะไรก็ได้
แม้แต่ PISA ของ OECD ก็ต้องการวัดความพร้อมของคน โดยใช้เกณฑ์อายุ 15 ปี ซึ่งถือว่าผ่านการศึกษาพื้นฐานสำหรับเด็กไทย ก็อยู่ที่ เกรด 11 การวัดความพร้อมที่จะออกไปประกอบอาชีพ หรือเรียนทางสายอาชีพ ซึ่ง PISA เน้น ในเรื่อง Analytical skill (การคิดวิเคราะห์ ) Reading skill (ความสามารถในการอ่าน) และ Science literacy (ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์) ลองนึกดูว่า ทำไม OECD ให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้ และถือเป็นการศึกษาพื้นฐานของทุกคน
Computing ในหลักสูตร ว.4.2 ประกอบด้วย สามโดเมนความรู้ คือ กระบวนการคิด แก้ปัญหา (Computing) พื้นฐานความรู้ (Digital technology) และ พื้นฐานรู้เท่าทันสื่อ และข่าวสาร (Media and Information literacy)
ในส่วนของ Computing เป็นเรื่องพื้นฐานกระบวนการคิด ตั้งแต่การคิดเชิงนามธรรม (Abstraction) การคิดวิเคราะห์ (Analytical) การวางลำดับขั้นตอนการคิด การแก้ปัญหา กระบวนการคิดแก้ปัญหา ที่เรียกว่า อัลกอริทึม (Algorithm) เรื่องเหล่านี้ เป็นพื้นฐานของชีวิตตั้งแต่เกิด เช่น ถ้าอยากทำกับข้าว จะมีขั้นตอนการทำอย่างไร การเลือกการตัดสินใจ เมื่อไรจะทำอะไร อะไรทำพร้อมกันได้ ประสิทธิภาพของการทำอาหารเป็นอย่างไร เขียนลำดับขั้นตอนได้อย่างไร
หรือถ้าจะเดินทางกลับบ้าน มีทางเลือกอย่างไร มีได้กี่วิธี มีข้อดีข้อเสียอย่างไร จะตัดสินใจอย่างไร เรื่องเหล่านี้ เป็น Computing กระบวนการขั้นตอนของการดำเนินงานทุกอย่างเป็น การคิดแบบเป็นระบบ
ลองนึกดูว่า เด็กไทย เรียนคณิตศาสตร์ ตั้งแต่เด็ก รู้วิธี บวก ลบ คูณหาร อาจรู้คณิตศาตร์ แต่หากไม่คิดแบบ Computing เมื่อเจอโจทย์ ทำไม่ได้ จะเขียนให้อยู่ในรูปสมการ และการแก้ปัญหาไม่ได้ กระบวนการที่จะทำให้เกิดการแก้ปัญหาได้นี้คือ Computing
แม้บางครั้งมีการนำการเขียนโปรแกรม หรือใช้กับคอมพิวเตอร์ ก็เป็นเพียงการฝึกลำดับความคิด การสร้างจินตนาการ ดึงความสนใจของเด็ก เป็นการวางลำดับความคิด ซึ่งมีการสร้างมาสำหรับเด็ก ที่จะเรียนรู้ลำดับอย่างสนุก และมีรูปธรรม ไม่ใช่การเขียนโปรแกรมแบบมืออาชีพ หรือต้องการให้เป็นนักโปรแกรมแต่อย่างใด
ศาสตร์ทางด้าน Computing จึงมีความสำคัญ เพราะการคิดแบบเป็นระบบ การวางลำดับ การมโนภาพ หลักการแก้ปัญหา การใช้หลักการลดความซับซ้อนของปัญหา การผูก หรือสร้างโมเดลทางคณิตศาตร์ ซึ่งเป็นกระบวนการทางอัลกอริทึม เพราะต้องคิดวิเคราะห์ เป็นระบบ เช่น การทำแกงส้ม ก็ต้องคิดเป็นระบบ จะต้องเตรียมการอย่างไร ทำอะไรก่อนหลัง การตัดสินใจทำงานใดงานหนึ่งต้องวางแผนและคิดเป็นระบบ เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพ
Computing ไม่ใช่ Computer Science เพราะ Computer Science คือกระบวนการที่จะประยุกต์ ใช้คอมพิวเตอร์ ออกแบบคอมพิวเตอร์ เขียนคำสั่งงาน สร้างประโยชน์ให้เกิดประโยชน์ กระบวนการของการออกแบบ การสร้างคอมพิวเตอร์ หรือประยุกต์งานด้านต่างๆ แต่เนื้อหาบางส่วนจาก Computer Science เป็นวิธีหนึ่ง หรือ ซับเซตของ Computing ได้
ในวิชาพื้นฐาน 4.2 เป็นวิชาพื้นฐานสำหรับทุกคน ต้องการวางพื้นฐานของนักเรียนให้มีชีวิตในสังคม ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล มีเครื่องไม้ เครื่องมือ ใกล้ตัวเต็มไปหมด บ้านเมืองกำลังก้าวสู่ยุคสมาร์ท ลองนึกถึงสิ่งรอบตัว ขึ้นลิฟต์ แอร์ เครื่องกดเงินสด รถไฟฟ้า ทุกหนทุกแห่งมีแต่เครื่องมือดิจิทัล การเรียนรู้ เข้าใจและใช้ชีวิตบนนิเวศน์ดิจิทัลได้อย่างมีความสุข
นอกจากนี้ยังต้องอยู่กับสื่อใหม่ ใช้เครื่องมือ ใช้สื่อ แสวงหาความรู้จากข่าวสาร เรียนรู้ได้เอง ต้องรู้เท่าทันสื่อ ดูแลปกป้องตัวเองจากสังคมที่เต็มไปด้วยสื่อ และข้อมูลข่าวสาร แยกแยะความคิดเห็น ความจริงจากข่าวสารที่รับได้ เข้าใจอัตลักษณ์ตัวตน ปกป้องอันตราย และใช้ในโลกดิจิทัลได้ อยู่ในสังคมการเงินสมัยใหม่ ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และเข้าใจกฏระเบียบ กฏหมายในโลกดิจิทัลได้
เรื่องราวที่ต้องศึกษาในเรื่อง Computing สำหรับหลักสูตรใหม่นี้ จึงมีความสำคัญสำหรับคนไทยทุกคน แม้แต่ครูทุกสาขาก็ต้องศึกษาและเรียนรู้เพื่อประโยชน์ของตนเอง เพื่ออยู่ในสังคมดิจิทัลในอนาคต เพื่อรองรับแผนประเทศไทย ที่อยากก้าวสู่ Thailand 4.0 ที่ทุกคนคงหลีกเลี่ยงไม่ได้
ยิ่งเรากำลังจะอยู่กับอุปกรณ์สมัยใหม่ ลูกสาวซื้อ Google Home Mini ให้เป็นของขวัญปีใหม่ ทำให้เห็นว่า ชิวิตเรากำลังจะเปลี่ยนไปอีกมากในอนาคต
ต้องขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ยืน ภู่วรวรรณ ที่ได้ไขความกระจ่างให้กับครูผู้สอนในกลุ่มวิชา วิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่ปีนี้ทาง สสวท. ได้ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตร ตัวชี้วัดต่างๆ และปรับย้ายเอาเนื้อหาเกี่ยวกับ Computing นี้ออกไปจากกลุ่มการงานไปอยู่ในกลุ่มวิทยาศาสตร์ ที่ตรงมากกว่า (เมื่อก่อนคงคิดว่า คอมพิวเตอร์มันก็แค่พิมพ์ดีดจากเครื่องต๊อกแต๊กลงกระดาษไปพิมพ์ปรากฏบนจอมั๊ง เลยจัดให้อยู่การงานอาชีพเสียเลย และความเข้าใจผิดๆ นี่ก็มาส่งผลในนักศึกษาฝึกสอนหรือฝึกงาน รวมทั้งครูคอมพิวเตอร์มาบรรจุใหม่ ถูกแย่งตัวไปทำหน้าที่ในห้องธุรการ พิมพ์เอกสารก็อกแก็กเรื่อยมา) และคุณครูกลุ่มอื่นๆ จะได้เข้าใจกันเสียทีว่า การเรียน Computing นั้นเรียนไปเพื่ออะไร คุณครูทุกคนต้องพร้อมปรับตัวเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้แล้ว
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)