เอาข้อคิดเห็นจากผู้อาวุโสกรมสามัญศึกษามาฝากให้ข้าราชการครูช่วยดำเนินการ เพื่อให้ได้โรงเรียนนิติบุคคลเต็มรูปแบบไม่แพ้วัด

กราบเรียนคุณลุงตู่ที่เคารพอย่างสูง

ผมเป็นครูอยู่กระทรวงศึกษาตั้งเริ่มรับราชการจนเกษียณอายุราชการ รวม 40 ปี เมื่อเกษียณแล้ว อธิบดีฯ ยังเอาผมเป็นที่ปรึกษากรม ถึงอายุ 72 ปี รวมอยู่ในกระทรวงศึกษาถึง 52 ปี ผมอยากกราบเรียนคุณลุงตู่ของผม เรื่องการปฏิรูปโรงเรียนมากกว่าปฏิรูปการศึกษา เพราะปฏิรูปโรงเรียนสำคัญกว่าปฏิรูปการศึกษาผลงานเรื่องคุณภาพการศึกษาของกระทรวงศึกษาอยู่ที่โรงเรียน ไม่มีโรงเรียนก็ไม่มีกระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานอื่นเช่น ศธจ. ศธภ. ไม่สามารถสร้างคุณภาพการศึกษาให้กระทรวงศึกษาได้

ผมเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนในยุคปฏิรูปโรงเรียนอย่างแท้จริง คือโรงเรียน คมส. (โรงเรียนมัธยมแบบผสมผสาน มีการเรียนทั้งวิชาสามัญศึกษาและวิชาช่างต่างๆ เช่น ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้าอิเล็กโทรนิค ช่างไม้ ช่างโลหะ ช่างเกษตร มีโรงฝึกงานและเครื่องมือการเรียนการสอนครบครัน) ทั้งประเทศเริ่มนำร่องมี 20 โรงเรียน ฯพณฯ รมว. ศธ. บอกกับผมว่าท่านก็สำเร็จมาจากโรงเรียน คมส. ผมยังแอบทราบว่า ฯพณฯ แม้เป็นนายแพทย์แต่ก็ทำงานช่างได้หลายอย่าง เพราะผลจากการเรียนในโรงเรียน คมส. รายละเอียดคุณลุงตู่ถามจาก ฯพณฯ ได้ ดังนั้นถ้าปฏิรูปโรงเรียนเป็น คมส. ทั้งหมด จะทำให้อาชีวศึกษามีความสำคัญสนองความประสงค์ของลุงตู่มากขึ้น สนองความต้องการของประเทศ คือคนมีงานทำมากขึ้น

การปฏิรูปโรงเรียน คุณลุงตู่ก็ทำอยู่ 1 อย่างคือ ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ อย่างอื่นคงกำลังคิดอยู่แต่ยังไม่ได้ทำ ผมจึงขอกราบเรียนคุณลุงตู่เพื่อประกอบการพิจารณาในการปฏิรูปโรงเรียน ดังนี้

1. โรงเรียนต้องไม่มีโรงเรียนใดเป็นโรงเรียนดังหรือโรงเรียนยอดนิยม (โรงเรียนแม่เหล็ก โรงเรียนไอซียู หรืออื่นๆ) นักเรียนทุกคนต้องนิยมเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน เพราะโรงเรียนใกล้บ้านมีคุณภาพเท่ากับโรงเรียนไกลบ้าน มีครูพร้อมตรงครบกับวิชาที่เปิดสอน มีอุปกรณ์การสอนการเรียนพร้อมทุกวิชา มีอาคารเรียนอาคารประกอบพร้อม ไม่ว่าโรงเรียนใกล้บ้านจะมีนีกเรียนกี่คน รัฐต้องลงทุนโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนและขนาดโรงเรียน
2. การทุ่มเงินลงทุนเพื่อโรงเรียนเพื่อให้โรงเรียนมีคุณภาพเท่าเทียมกัน เพื่อยกระดับคุณภาพจากที่ท้ายๆของอาเซี่ยนมาเป็นที่ 1 ชนะสิงคโปร์ เพื่อให้นักเรียนเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน คุณลุงตู่จะต้องการใช้เวลากี่ปี ถ้าต้องการเร็วใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี เท่าที่คุณลุงตู่อยู่เป็นนายก เงินงบประมาณคงไม่พอต้องระดมทุนเพื่อการศึกษาจากผู้ปกครองนักเรียน พ่อค้าประชาชนและใช้ ม.44 เก็บภาษีเพื่อการศึกษาให้เพียงพอเสร็จเรียบร้อยใน 2 ปี แต่ถ้าคุณลุงตู่ยินดีรับตำแหน่งนายกต่อตามทีสมาชิกสภาเสนอและได้รับมติ ผมเชื่อว่าต้องมีผู้เสนอและได้รับมติอย่างแน่นอน เพราะงานสำคัญๆ ของคุณลุงตู่ที่ทำอยู่ยังไม่เสร็จ ต้องรับผิดชอบทำจนเสร็จ คุณลุงตู่อยู่ได้อีก 4 ปี รวมเป็น 6 ปี การระดมทุนที่ว่าก็ไม่ต้องหนักเท่าไรนัก แต่คุณภาพการศึกษาในระดับอาเซี่ยนคงไม่ถึงที่ 1 แต่ถ้าทำตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ของคุณลุงตู่โรงเรียนจะมีคุณภาพเท่าเทียมกันทั้งใกล้บ้านและไกลบ้านใน 20 ปีข้างหน้า ก็คงทำไปเรื่อยๆ ดีขึ้นนิดๆ ก็พอไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษมากนัก อีก 20ปี ตอนนั้นผมคงอายุ 110 ปี คงลาโลกไม่ได้อยู่ดูผลการปฏิรูปโรงเรียนของคุณลุงตู่ แต่คุณลุงตู่อาจยังอยู่ดูผลงานของตนเองได้ ว่าจะชนะสิงคโปร์ได้หรือไม่ แล้วแต่คุณลุงตู่จะเลือกเอาอย่างไหน
3. คุณลุงตู๋คงรักและสงสารเด็กเหมือนผม คงไม่ต้องการให้ "ครูลอยแพเด็ก" ทิ้งเด็กไว้กลางทางให้ว้าเหว่โหยหาคิดถึงครูร้องไห้ถึงครู ไม่เห็นหน้าครูเมื่อเปิดเทอมปลาย วันที่ 1 พฤศจิกายน เพราะครูของเขาเกษียณอายุการเมื่อ 1 ตุลาคมแล้ว ดังนั้นคุณลุงตู่ต้องสั่งให้กระทรวงการคลังแก้ พรบ. ให้ข้าราชการครูเกษียณอายุราชการวันที่ 1 เมษายน และต้องไม่มีเออรี่รีไทร์สำหรับข้าราชการครู เพราะทำให้การสอนปั่นป่วนขาดตุณภาพหรือไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
4. โรงเรียนเป็นนิติบุคคล มีกฎหมายให้เป็นนิติบุคคลมา 20 ปีแล้ว แต่เป็นนิติบุคคลแค่ชื่อ กลับมีอำนาจหน้าที่น้อยกว่าที่ไม่เป็นนิติบุคคลเสียอีก เพราะกรมสามัญมอบอำนาจของกรมให้โรงเรียนมากจนเกือบหมด และมอบให้สามัญศึกษาจังหวัดบ้าง ผอ.สามัญศึกษาจังหวัดไม่ได้เป็น "นาย" แต่เป็นผู้กำกับดูแลช่วยเหลือโรงเรียนให้โรงเรียนมีความคล่องตัว และตามความจำเป็น ผมไม่รู้ว่าผู้ใหญ่คนไหนใน สพฐ. ทำเรื่องขำแต่หัวเราะไม่ออกเชิญชวนให้โรงเรียนเข้าอบรมเป็นนิติบุคคลใหม่ ไม่รู้ว่าเอาตำรามาจากไหน เป็นนิติบุคคลแล้วก็เก่าหรือใหม่เท่ากันหมด มีอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติและตามที่ได้รับมอบอำนาจหรือมอบหมาย คุณลุงตู๋ต้องสั่งให้ ศธ. และ สพฐ. ดำเนินการให้โรงเรียนเป็นนิติบุคคลเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะงานบรืหารบุคคลการบรรจุครูต้องให้เป็นอำนาจหน้าที่ของโรงเรียน เพื่อให้โรงเรียนเป็นที่ 1 ในอาเซี่ยน (การบริหารงานของโรงเรียนเราไปลอกรูปแบบมาจากต่างประเทศ ให้มีคณะกรรมการสถานศึกษามาช่วยในการตัดสินใจในแผนงาน โครงการต่างๆ ของโรงเรียน เห็นชอบการแต่งตั้งสรรหาผู้บริหารโรงเรียนและครู แต่เอาเข้าจริงเป็นได้แค่ตรายางเพื่อให้เกิดความชอบตามระเบียบเท่านั้น ไม่ได้มีการใช้อำนาจบริหารตามโครงสร้างที่ลอกเขามาเลยสักนิด)
5. ขอข้อสุดท้ายให้คุณลุงตู่คิดเล่นๆ ว่า ทำไมเอ่ยข้าราชการครูเมื่อจะเป็นนายครู ตือเป็นรองเลขาธิการ ขึ้นไปในกระทรวงจึงต่องเปลี่ยนไปเป็นข้าราชการพลเรือน จะให้เป็นข้าราชการครูต่อไปไม่ได้หรือ ความจริง ศธ. เป็นกระทรวงครูมีครูไม่น้อยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งกระทรวงจึงต้องเป็นข้าราชการครูมากกว่าเป็นข้าราชการพลเรือน ปลัดกระทรวงก็ต้องมาจากครู ใช่ไหมครับคุณลุง

คุณลุงตู่จะได้อ่านบทความนี้ของผมหรือไม่ผมไม่รู้ ถ้าใครอ่านแล้วช่วยบอกคุณลุงตู่ของผมหน่อย คุณลุงตู่อ่านแล้วโยนทิ้งลงตะกร้าผมก็ยังดีใจว่าท่านได้อ่านแล้วเพราะผมรักคุณลุงตู่ของผมอย่างใจจริง เพราะท่านเป็นนักประชาธิปไตยในคราบเผด็จการ คนแรกของประเทศไทย

เป็นความคิดเห็นท่านผู้อาวุโส
ยุทธ วชิรปัญญาวัฒน์