กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมวางกรอบผลิตครูสายพันธุ์ใหม่ กระตุ้นให้คนเก่งสนใจเรียนครูเพิ่ม สนับสนันให้ทุน-ประกันการมีงานทำเมื่อเรียนจบ โดยได้กำหนดแนวทางการดำเนินการ ไว้ 2 รูปแบบ คือ
โดยยกเว้นการพิจารณาให้ความเห็นจาก คณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ซึ่งจะนำสัดส่วนที่ได้คืนจาก 100 เปอร์เซ็นต์นี้ มาเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับ การบรรจุนักศึกษา ตามโครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ ที่จะทำให้โครงการนี้ สามารถสร้างแรงจูงใจ ให้คนเก่งอยากมาเรียนครู เป็นหลักประกันที่ชัดเจนว่า มีงานทำอย่างแน่นอน
ประเด็นข่าวที่เอามาบอก ก็เพียงแต่อยากจะแสดงความเห็นต่อวงการวิชาชีพนี้บ้างเท่านั้น ในความรู้สึกของผมนั้น ไม่อยากจะให้แยกว่าอะไร คือ สายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์เก่า ไม่อยากจะบอกว่า ใครเก๋ากึก ดึกดำบรรพ์ ใครรุ่นใหม่ ใครเด็กแนว แต่อยากให้ทุกรุ่นทุกสายพันธุ์มีจิตใจมุ่งมั่นต่อการพัฒนาวงการศึกษา ต้องการสร้างเด็กเยาวชนให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ เป็นคนดี มีศีลธรรม สามัคคี
ต้องเล่าย้อนหลังไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ในสมัยที่มหาวิทยาลัยราชภัฏต่างๆ ยังเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู/วิทยาลัยครู สมัยโน้นคนที่เรียนดีมีความเก่งในด้านวิชาการ ประพฤติดี มีศีลธรรม (เรียกว่า ที่หนึ่งของจังหวัด) จะถูกส่งไปเรียนเป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ เบื้องหลังก็คือ ต้องการคนที่เป็นแม่แบบหรือเบ้าหลอมที่ถึงพร้อมในทุกๆ ด้าน มาสั่งสอนลูกศิษย์ เวลานึกถึงการเรียนสายวิชาชีพครู เราก็มักจะนึกถึงวิทยาลัยครู หรือคณะครุศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์ ศึกษาศาสตร์จากวิทยาลัยวิชาการศึกษา แต่พอต่อๆ มาเราชักเริ่มไม่แน่ใจว่า ถ้าจะเรียนครูเพื่อเป็นครูที่ดีนี่ต้องเรียนสำนักไหน?
ไม่เพียงแต่เท่านั้น... คนที่เลือกเรียนสายครูในปัจจุบันกว่าร้อยละ 60 คือคนที่สอบเข้าเรียนต่อในสายอื่นๆ ยอดนิยม (วิศวะ หมอ สถาปนิกและอื่นๆ) ไม่ได้แล้ว ทางเลือกคือ ต้องเรียนสายการศึกษา เพราะไม่อยากกลับไปทำนาทำไร่ เป็นเกษตรกรอย่างรุ่นพ่อแม่ มีเพียงส่วนน้อยที่ประทับใจคุณครู ผู้สอนในโรงเรียน มีความมุ่งมั่นที่จะเรียนในสายวิชาชีพนี้มาตั้งแต่ต้น และคนส่วนน้อยนี่แหละที่จะเป็นต้นกล้าสายพันธุ์ใหม่ ที่สืบทอดเจตนารมย์ของ สายพันธุ์เก่าวัยไม้ใกล้ฝั่งได้
ดังนั้น การคัดเลือกคนที่จะเข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อให้เป็นครูสายพันธุ์ใหม่ จึงควรจะมีวิธีการคัดกรองในเรื่องความเป็นคนดี มีจิตใจมุ่งมั่นต่ออาชีพนี้จริงๆ อาจจะต้องถึงขั้นทดสอบทางด้านจิตวิทยา การสืบเสาะภูมิหลังเมื่อครั้งยังเรียนในระดับมัธยมศึกษากันเลยทีเดียว เพื่อรับทุนในการศึกษาเล่าเรียน และการเรียนในสายนี้ควรมีความเข้มข้นในด้านการเรียนวิชาชีพครู จิตวิทยาสำหรับครู การฝึกสอน การปฏิบัติจริงในสถานศึกษาต่างๆ เพราะว่า ผมเคยได้รับมอบหมายให้เป็นครูผู้นิดทศนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ที่มาฝึกสอนในโรงเรียนแล้ว มีความรู้สึกผิดหวังมากๆ
มาดูกันทีละประเด็นว่าผมได้พบและผิดหวังกับอะไรบ้าง
อาจจะมีหลายเหตุผลอื่นๆ ที่ผมไม่ได้พบ ในจำนวนครูพันธุ์ใหม่ทั้งหลาย ก็อยากให้เป็นพันธุ์แท้ เป็นความหวังของวงการศึกษา ให้มากที่สุดเถอะครับ ถ้ารุ่นใหม่ๆ เข้ามาทดแทนรุ่นเก่าๆ พวกเราจะได้สบายใจมากขึ้น แต่อย่าลืมเรื่องค่าตอบแทนของวิชาชีพนะครับ ควรให้เหมาะสมหน่อย ถ้าเป็นครูอย่างเดียวรายได้แค่นี้คงยากที่จะจูงใจให้คนรุ่นใหม่มาประกอบอาชีพนี้กัน ผมสะท้อนใจทุกทีเมื่อมีข่าวเกี่ยวกับ การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู (เออนะ... อาชีพนี้ทำไมถึงหนี้เยอะขนาดนี้หนอ... ผมก็มีหนี้เหมือนกันนั่นแหละ แต่ก็พอเอาตัวรอดไปได้ ไม่ได้อยากให้ใครต้องมายุ่งยากด้วยนักหรอก เราสร้าง เราก่อ เราก็ต้องแก้ได้ด้วยสติและปัญญาของเรา)
"เป็นครูบ่กู้แต่ระเบิด" อันนี้ไม่รู้ได้ยินจากวงเหล้า หรือที่ไหนมานานแล้วล่ะครับ ก็เลยถึงบางอ้อว่า.. ครูเป็นหนี้แสนล้านไม่ใช่เรื่องแปลก อ้าวมาเรื่องนี้ได้ไง... ครูพันธุ์ใหม่อย่าเป็นหนี้นะครับ มันถอนตัวยาก ยืมตรงนั้นมาโปะตรงนี้ ยืมไปยืมมาแล้วมันยุ่งเหมือนลิงติดแห แก้ไม่ออก ยุ่งไปหมดล่ะครับ...
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)