สืบเนื่องมาจากตอนที่แล้วเรื่อง "แม่ไก่บ้านเรา" ผมอยากจะเล่าเรื่อง "แม่ไก่บ้านเขา" ให้ฟัง บางทีหลายๆ ท่านที่มีอำนาจวาสนา สามารถบันดาลอะไรได้จะได้ฉุกคิด ซึ่งอาจจะฉุดกระบวนการปฏิรูปการศึกษาของไทยให้ก้าวไกลดังที่หวังก็ได้ครับ
ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ผมได้ทำหน้าที่เป็นคณะทำงานฝ่ายเลขานุการ ของผู้ตรวจราชการกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 10 (ท่านผู้อำนวยการวินัย เสาหิน) และได้รับมอบหมายจากทางกรมสามัญศึกษาให้นำเสนอข้อมูลต้อนรับ "คณะผู้ตรวจการศึกษา ของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)" (ด้วยความสามารถที่สื่อสารภาษาลาวได้ชัดเจนและพอมีความรู้เรื่องการตรวจราชการด้านการศึกษาของไทย กระมัง) ช่วงพักรับประทานอาหารกลางวันก็เลยมีโอกาสได้สนทนากันกับคณะทาง สปป.ลาว นอกรอบเกี่ยวกับการทำงานได้ข้อคิดหลายข้อทีเดียวครับ
ครูมนตรี : การทำงานของผู้ตรวจการศึกษาของทาง สปป. ลาว เป็นยังไงบ้างครับ?
ผู้ตรวจ สปปล. : ก็จะออกเยี่ยมยามพวกหมู่ครูในเขตพื้นที่ฮับผิดชอบ ในมื้อวันอังคารและวันพฤหัสบดี เพื่อให้คำแนะนำและส่อยเหลือกันแก้ไขปัญหาต่างๆ
ครูมนตรี : แสดงว่า แต่ละท่านมีเขตพื้นที่ไม่กว้างนัก แล้ววันอื่นๆ มีงานทำประจำอย่างอื่นหรือไม่ครับ?
ผู้ตรวจ สปปล. : พื้นที่ฮับผิดชอบของผู้ตรวจกะประมาณว่า เดินทางไปเถิงได้ภายในมื้อเดียวกัน ผู้ออกตรวจทุกคนต้องเป็นครูสอนคือกันกับครูผู้อื่น สอนเด็กน้อยในมื้อวันจันทร์ พุธ ศุกร์
ครูมนตรี : ต้องสอนด้วยหรือครับ ทางบ้านผมเขาไม่สอนกันเลยครับ ออกตรวจเยี่ยมอย่างเดียวเลย
ผู้ตรวจ สปปล. : ถ้าบ่สอนกะบ่ฮู้ปัญหา แล้วสิไปแนะนำแก้ปัญหาเขาได้จั่งได๋น้อ ไผสิเชื่อคนบ่เคยเฮ็ดเคยเวียกงานมาก่อน แม่นเว้าได้กะสิบ่ถืกต้องกับปัญหาที่พบที่พ้อดอก
ครูมนตรี : แล้วตอนที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนการสอน มีการอบรมครูกันอย่างไรครับ อย่างทางนี้ก็จะอบรมแม่ไก่ก่อนแล้วค่อยไปขยายผลต่ออีกที
ผู้ตรวจ สปปล. : กะเฮ็ดคือกันกับทางนี้ แต่เฮาเอาไปให้ครูผู้สอนได้ทดลองใช้กันเบิ่ง ถ้าพ้อปัญหากะให้ครูผู้สอนได้ฮ่วมกับผู้ตรวจการได้ส่อยกันหาวิธีแก้ไข แบบได๋ได้ผลกะจั๋งนำไปเผยแผ่ต่อไปอีก บ่ได้ยึดว่าสิ่งที่ทางส่วนกลางเว้ามานั้นถืกต้องทั้งเบิด พวกเฮาต้องปรับแก้วิธีการให้ได้ประโยชน์กับผู้เฮียนหลายที่สุด
พอถึงบรรทัดนี้ก็คงจะมองภาพออกว่า เหตุไฉนแม่ไก่บ้านเรากลายเป็นแม่ปู เพราะแม่ไก่ของเราไม่เคยฟักไข่ ดีแต่ขันและออกไข่แล้วเขี่ยทิ้ง ไม่เคยรับทราบปัญหาไม่เคยแก้ปัญหาหรือแม้กระทั่งสัมผัสกับปัญหาด้วยซ้ำไป ก็เลยกลายไปเป็นแม่ปูที่พยายามพร่ำสอนลูกปูให้เดินให้ตรงให้ได้
หลังจากพยายามสอนลูกปูอยู่นานแล้ว ลูกปูทำไม่ได้ ลูกปูเริ่มหงุดหงิด ร้องขอให้แม่ปูเดินให้ตรงทางให้ดู แม่ปูกลับเลี่ยงเฉไฉว่า ลูกปูไม่เข้าใจหลักการ ด้วยเหตุนี้แหละที่แม่ไก่สูญพันธุ์ไปกลายเป็นแม่ปู
ผมคงไม่ได้ตั้งใจว่าใครหรอกนะครับ แต่พูดตามประสบการณ์ที่ได้พบ ถ้าหากแม่ปูท่านใดที่มีความตั้งใจและความสามารถเพียบพร้อม ก็ขอขอบคุณแทนลูกปูและลูกศิษย์เยาวชนตัวน้อย ช่วยกันตั้งใจอุทิศตนเพื่อการพัฒนาการศึกษาของไทยครับ ยังไงผมก็ยังอยากให้แม่ปูไทยเหมือนแม่ปู สปปล. ที่ต้องสัมผัสทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติ เพื่อให้ลูกปูได้มั่นใจว่า สิ่งที่แม่ปูกล่าวถึงนั้นแม่ปูได้ทดลอง ได้สัมผัสและปฏิบัติมาก่อนจนได้ผลดีมาแล้ว แม่ปูเดินตรงได้จริงๆ ไม่ได้โม้!!!!
พบกันใหม่คราวหน้าครับ
ครูมนตรี โคตรคันทา
6 พฤศจิกายน 2545
บรุ๊คไซด์ วัลเลย์ ระยอง
ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)