foto1
ความงดงามการศึกษาไทย
foto1
เพื่อ?
foto1
ไม่เข้าใจ?
foto1
วิทยากรที่กระทรวงศึกษาธิการ สปป.ลาว
foto1
ท่องทะเลทรายที่ดูไบ UAE


Friendly Links

เรียนรู้ภาษา html
isangate banner
easyhome banner
ipst banner
sakdibhornssup foundation
13 Thai free fonts
speedtest
e mil

Facebook Likebox

No. of Page View

webmaster talk

ขอกราบคารวะพระคุณครูทั้งในอดีตและปัจจุบัน... ด้วยความเคารพอย่างสูง

ด้วยความสำนึกในพระคุณของคุณครู ที่ทำให้ผมมีสัมมาอาชีพในวันนี้ ทั้งครูที่ได้สั่งสอน (เขกกะโหลก ขออภัยต้องใช้คำนี้เพราะผมมีความรู้สึกรักคุณครูที่ทำให้ผมจดจำครับ) โดยตรงและโดยอ้อม (ด้วยรูปแบบครูพักลักจำ) ขอกราบแทบเท้าทุกๆ ท่านครับ...

ไม่ได้อัพเดทหลายวันครับ เพราะทุ่มเวลาไปกับการปรับปรุงเว็บไซต์ของหน่วยงานรับปีใหม่ ฟ้าใหม่ วันนี้เป็นวันครูเลยมีเรื่องราวจะบ่นให้หลายๆ ท่านฟังตามประสาครูบ้านน้อกบ้านนอกอีกวาระหนึ่ง

ก่อนอื่นก็ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนครูไทยที่ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เนื่องในวันครูแห่งชาติในวันนี้ ทั้งที่ได้รับการยกย่องระดับชาติ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับกลุ่ม/สหวิทยาเขต หรือแม้แต่ในระดับโรงเรียน ก็ขอให้มีพลังสร้างสรรค์ความรู้แก่ลูกหลานไทยต่อไปครับ ส่วนท่านที่ไม่ได้รับการยกย่องในวันนี้ก็ไม่ต้องน้อยใจนะครับ คุณครูทุกคนยังอยู่ในหัวใจของศิษย์เสมอ ผมเชื่อมั่นว่า คุณครูของผมทุกคนมีความตั้งใจจริงในการนำพาลูกศิษย์ไปสู่อนาคตที่สดใสครับ

เดือนนี้เป็นเดือนของเด็กและครู มีทั้งวันเด็กและวันครู (ปีนี้ไม่ได้นำลูกหลานไปเที่ยววันเด็กที่ไหนเลย เพราะโตๆ กันหมดแล้ว) ก็ได้เฝ้ามองและติดตามข่าวสารทั้งจากวิทยุและโทรทัศน์ เลยมีแง่คิดมานำเสนอกับทุกท่านอยู่ 2-3 เรื่องครับ

กรณีศึกษา : การแสดงของเด็กในวันเด็ก เราดูการแสดงของเด็กเนื่องในวันเด็กแห่งชาติแล้วมีความรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดูกับหนูๆ ตัวน้อยที่ตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่ ทุกคนสนุกสนาน รวมทั้งคุณครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง แม้ว่าจะมีบ้างบางคนที่ยืนร้องไห้กลางเวทีแต่นั่นคือประสบการณ์ชีวิตที่บอกให้เรารู้ว่า แม้จะเตรียมตัวมาดีเพียงใดก็มีโอกาสผิดพลาดได้ แต่สิ่งที่ผมมองลึกลงไปกว่านั้นคือการมองครูครับ เราได้ทำถูกกันแล้วหรือในการสั่งสอนเด็ก? เรากำลังป้อนแบบอย่างอะไรให้กับเด็กบ้าง ความเป็นไทย? ความเป็นสากล? หรือชีวิตวัยผู้ใหญ่แบบแก่แดด?

ลองหลับตานึกถึงการแสดงของเด็กเนื่องในวันเด็กที่มีการจัดในหลายๆ แห่ง มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์หลากหลายช่อง ท่านมองเห็นอะไร?

สำหรับผมมองเห็นการแสดงคาบาเรต์โชว์ครับ ทั้งการเต้นและการแต่งตัว แต่งหน้าทาปาก หาการแสดงที่เป็นไทยทั้งการฟ้อนรำที่อ่อนช้อยงดงามด้วยศิลปะได้ไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ บางท่านอาจจะเห็นว่าเป็นความน่ารักน่าชัง แต่ผมมองในทางตรงกันข้ามครับ เรากำลังยัดเยียดในสิ่งที่เกินวัยให้กับพวกเขา โดยลืมรากเหง้าของวัฒนธรรมไป เรากำลังสอนให้เด็กๆ เป็นนักบริโภคนิยมไม่ลืมหูลืมตา เสพวัฒนธรรมที่ผิดเพี้ยนตั้งแต่วัยเยาว์ นี่คือสาเหตุของการเที่ยวผับเที่ยวเธค หรือไม่? การบริโภควัฒนธรรมและลอกเลียนแบบที่เกิดขึ้นและนิยมกันในหมู่วัยรุ่นวันนี้ มาจากการสั่งสอนโดยไม่ตั้งใจของครู พ่อแม่ ผู้ปกครอง ในวันนี้หรือไม่?

ที่ท่านนายกบ่นเรื่องนักศึกษากระเป๋าหลุยส์วิตตอง นักเรียนเขียนขอให้นายกลดค่าโทรศัพท์มือถือในวันเด็ก รัฐมนตรีมหาดไทยต้องออกจัดระเบียบสังคมทุกค่ำคืน มาจากการสร้างค่านิยมในวัยเด็กหรือไม่?

มีคำถามหนึ่งตามมาอีก เยาวชนดีเด่นตัวอย่างทั้งหลายนั้น ดีเด่นเพราะได้เป็นดารา นักแสดง นักร้องบันทึกเทป/ซีดีเพียงหนึ่งชุดเท่านั้นหรือ? เยาวชนที่สู้ชีวิต ตั้งใจช่วยพ่อแม่ผู้ปกครองทำมาหาเลี้ยงชีพ (ปากกัดตีนถีบ) แต่ไม่เคยทิ้งการเรียนและข้องแวะยาเสพติดเลย ทำไมไม่ยกย่องหนอ? (ผมกำลังนึกถึงเด็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ต่อสู้ชีวิตอย่างนี้จากรายการ คนเก่งหัวใจแกร่ง ที่นำเสนอทาง ITV) ทำไมพวกเขาไม่ได้รับการยกย่องหนอ?

เป็นคำถามปลายเปิดที่ผมอยากให้ทุกท่านนำไปคิดให้มากครับ เห็นด้วยหรือไม่? "

มองครูไทย : จากข่าวในวันครู ผมดูสกู๊ปข่าวจากโทรทัศน์หลายๆ ช่องที่เกี่ยวข้องกับคุณครู (ไม่ได้อิจฉาคนได้รับรางวัลนะครับ) แต่ผมมองประเด็นที่คุณครูเหล่านั้น พูดออกมาบางคำครับ สังเกตไหมครับ?

ครูผู้ได้รับการยกย่องเกือบทุกคนพูดออกมาตรงกันอยู่อย่างหนึ่งครับ นอกจากจะอุทิศตนในการจัดการเรียนการสอน อย่างไม่ย่อท้อแล้ว หลายๆ ท่านยังต้องควักกระเป๋าจากเงินเดือนค่าตอบแทนอันน้อยนิดไปสร้างสื่อและวัสดุอุปกรณ์การสอน บางท่านทำอย่างนี้มานานนับสิบปีโดยไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้ใด บางท่าน (บ่น) เบาๆ ว่า นานนับสิบปีเช่นกัน ที่ไม่เคยได้รับความชอบเรื่องเลื่อนขั้นเงินเดือนเลย ผู้บริหารการศึกษาเหล่านั้น ท่านหูหนวกตาบอดกันหมดหรือไรหนอ?

การพัฒนาการศึกษาของเราดูเหมือนจะเป็นไปได้ดีในทุกด้าน (ถ้าดูจากเปลือกนอก) แต่ถ้ามองกันลึกๆ แล้วเรายังบกพร่องในหลายๆ กรณี อย่างเช่น เรื่องของการผลิตสื่อการสอน การจัดการเรื่องเวลาและอัตรากำลัง ครูทุกคนอยากจะผลิตสื่อที่ตรงกับความต้องการของผู้สอนเอง แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่คุณครูแต่ละท่านได้รับ มันมากเกินกว่าจะทำได้ ยิ่งเจอกับปัญหางบประมาณเข้าอีก ใจก็ฝ่อไปหมดครับ

เรื่องเงินทองของนอกกายแต่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่นัก ผมไม่อยากจะพูดถึง (กลัวจะถูกค่อนแคะว่าอยากขอขึ้นเงินเดือน) ด้วยเงินเดือนเท่านี้ มีภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว มีลูกตัวเองต้องส่งเสียเล่าเรียนเพื่อชีวิตอนาคตข้างหน้า แล้วยังต้องเจียดมาเพื่อซื้อวัสดุมาผลิตสื่อการสอนเพื่อสอนลูกในโรงเรียน (ที่ตัวเองรับผิดชอบอีก) ลองคิดดูซิครับ มีใครเสียสละยิ่งใหญ่อย่างนี้มานานนับสิบปีโดยไม่เคยปริปากบ่น

นักการเมือง นักการศึกษา ที่มีอำนาจและบทบาทในการจัดสรรงบประมาณ จะพิจารณาให้ขวัญกำลังใจแก่คุณครูของเราในวันนี้อย่างไรบ้างหนอ?

ครูไทย : บทบาทและหน้าที่ (ที่ควรปรับปรุง) อ่านหัวข้อแล้ว บางท่านบอกว่า ครูมนตรีเพี้ยน! เป็นครูก็ต้องสอนซิจะปรับเปลี่ยนไปทำอะไร? ถูกต้องและถูกต้องที่สุดครับ ควรจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่... ทุกวันนี้ครูมีหน้าที่อะไร ทำอะไรบ้าง?

  • เป็นนักการตลาด ครูทุกวันนี้มีภาระต้องขายความคิด ระดมหาลูกค้า (นักเรียน) ให้มาเรียนกันมากขึ้น ไม่เชื่อใช่ไหม? ถ้าโรงเรียนใหญ่ โรงเรียนดังในเมืองแทบไม่ต้องทำ แต่โรงเรียนในชนบทต้องทำครับ เพื่อให้ได้เป้ามีเงินรายหัวพอเพียงกับการบริหาร และเพื่อไม่ให้ลดตำแหน่งหรือถูกยุบโรงเรียน
  • เป็นเสมียน ข้อนี้ชัดเจนครับ ครูเราทุกวันนี้ได้รับมอบหมายหน้าที่ที่มากกว่างานสอนคือการเป็นเสมียนครับ ตั้งแต่ทำรายงานสารพัดเรื่องส่งให้หน่วยเหนือเพื่อเอาหน้า ทำบัญชี การเงิน พัสดุ สารพัดเรื่อง โดยเฉพาะในโรงเรียนเล็กๆ ทุกคนต้องทำตั้งแต่เรื่องเล็กๆ จนถึงเรื่องใหญ่ๆ ที่นอกเหนือจากการสอน หนังสือสั่งการที่มีไปถึงโรงเรียนมีอยู่สองชนิดคือ ด่วนที่สุด กับ ด่วนฉิบหาย

ด่วนที่สุด คือต้องส่งรายงานพรุ่งนี้ (สั่งการวันนี้)
ด่วนฉิบหาย คือเลยวันส่งมาแล้ว ต้องส่งวันนี้ (หนังสือพึ่งมาถึงหรือพึ่งจะสั่งการวันนี้ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ไปแอบซุกอยู่โต๊ะเจ้าหน้าที่คนไหน)

  • เป็นนักสังคมสงเคราะห์ ไม่อยากจะพูดว่าขอทาน (แรงไป) เพราะถ้ามัวรองบประมาณที่ได้รับจัดสรรจากหน่วยเหนือ ป่านนี้การศึกษาไทยคงอยู่ใต้น้ำครับ ไม่เป็นบัวโผล่เหนือน้ำหรอกเชื่อผมเหอะ เป็นเพราะบารมีครูที่ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพนับถือ และผู้ปกครองที่เชื่อมั่นครูได้สนับสนุนช่วยเหลือในวันนี้

บทบาทที่ต้องการให้ครูเปลี่ยนไปคือ อยากให้แยกบทบาทเหล่านี้ออกไปจากครูของเราเสียที ในโรงเรียนควรจะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอน โดยเฉพาะงานเสมียนนี่แยกออกไปเถอะ คุณครูของเราจะได้มีเวลาทุ่มเทและพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพียงอย่างเดียว เห็นด้วยไหมครับ?

ยังไม่หมดเรื่องบ่นครับ ขอยกยอดไปบ่นในคราวหน้า พร้อมทั้งประเด็นน่ารู้ทางการศึกษาของไทยเรา ช่วยกันมองให้ต่างมุม การศึกษาไทยจะก้าวไกลไปข้างหน้า ช่วยกันเถิดครับ...

ครูมนตรี โคตรคันทา
บันทึกไว้เมื่อ : 16 มกราคม 2546

 

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา ที่นี่ใช้คุกกี้ (Cookies) เก็บข้อมูล เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)

Our Policy