|
| หมวด
ก และ ข | หมวด ค และ ง | หมวด
จ, ช, ซและ ฐ | หมวด , ด, ต, ท,
น และ, บ |
หมวด ป, ผ, พ, ฟ, ภ, ม และ ย |
หมวด ร และ ล | หมวด ว, ส และ ห
| หมวด อ และ ฮ | |
หมวด
ป ผ พ ฟ ภ และ ม |
|
|
ปัญญาประดิษฐ์
(Artificial intelligent : AI) |
|
วิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ศาสตร์ที่พยายามทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถกระทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนมนุษย์
เช่น การเรียนรู้ การพัฒนาปรับปรุง การคิดหาเหตุผล ฯลฯ เพื่อให้สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ |
|
|
ปากกาแสง (light pen) |
|
|
เป็นอุปกรณ์ที่ไวต่อแสงที่นอกจากจะให้ในการวาดรูปสำหรับงานกราฟิกแล้ว
ยังสามารถทำหน้าที่เเหมือนเมาส์ในการชี้ตำแหน่งบนจอภาพ หรือเลือกรายการเลือกและไอคอน เพื่อสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์
โดยที่ปลายข้างหนึ่งของปากกาชนิดนี้จะมีสายเชื่อมที่สามารถต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์
เมื่อมีการแตะปากกาที่จอภาพข้อมูลจะถูกส่งผ่านสายนี้ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถรับรู้ตำแหน่งที่ชี้ และกระทำตามคำสั่งได้
นอกจากนี้ เมื่อมีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดพกพาหรือปาล์มท็อปกันแพร่หลาย ก็มีนำปากกาชนิดนี้มาใช้ในการรับข้อมูลที่เป็นลายมือบนเครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดนี้ด้วย |
|
|
ปาล์มท็อปคอมพิวเตอร์
(palmtop computer) |
|
|
เป็นไมโครคอมพิวเตอร์แบบพกพาที่มีขนาดเล็ก สามารถใส่กระเป๋าเสื้อได้
ใช้สำหรับทำงานเฉพาะอย่าง เช่น เป็นพจนานุกรม เป็นสมุดจดบันทึกประจำวัน บันทึกการนัดหมายและการเก็บข้อมูลเฉพาะบางอย่างที่สามารถพกติดตัวไปมาได้สะดวก |
|
|
โปรแกรมค้นหา
(search engine) |
|
เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยในการค้นหาเอกสาร หรือบทความที่เกี่ยวข้อกับเรื่องที่ผู้ใช้สนใจ โดยใช้คำสำคัญ
(keyword) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าสู่ระบบ และระบบจะนำคำสำคัญไปเปรียบเทียบกับคำในเอกสารต่างๆ
ที่เผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต และแสดงผลการค้นหาแก่ผู้ใช้ |
|
|
โปรแกรมต้นฉบับ
(source program) |
|
โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาระดับสูง
โดยนักเขียนโปรแกรมจะต้องเขียนก่อนที่โปรแกรมจะถูกแปลไปเป็นคำสั่งภาษาเครื่องที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ |
|
|
โปรแกรมแบบโครงสร้าง
(structured programming) |
|
วิธีการเขียนโปรแกรมที่แบ่งออกเป็นโปรแกรมย่อยๆ
หรือโมดูลเล็กๆ เพื่ออ่านและเข้าใจได้ง่าย การเขียนโปรแกรมเป็นโครงสร้างนี้เน้นในเรื่องที่ว่า
ต้องเขียนโปรแกรมโดยใช้ประโยคคำสั่ง 3 ชนิด ได้แก่ ประโยคเรียงตามลำดับ ประโยคเงื่อนไข
และประโยควนรอบ คำสั่งโปรแกรมที่เรียงตามลำดับคือคำสั่งต่อคำสั่ง ประโยคเงื่อนไขคือประโยค
IF-THEN หรือ CASE ส่วนประโยควนรอบคือ ประโยค WHILE-DO, DO-WHILE, FOR-DO และ
REPEAT-UNTIL |
|
|
โปรแกรมแบบจินตภาพ
(visual programming) |
|
การเขียนโปรแกรมแบบจินตภาพ คือการพัฒนาโปรแกรมที่ผู้เขียนโปรแกรมสามารถมองเห็นผลลัพธ์ของงานเมื่อมีการกระทำการโปรแกรมได้ตั้งแต่ขณะพัฒนาโปรแกรม
โดยไม่จำเป็นต้องรอให้การพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ โดยตัวแปลภาษาได้เตรียมสิ่งแวดล้อมในการทำงาน
(development environment) และเครื่องมือหรือชิ้นส่วนที่ผู้พัฒนาต้องใช้ในการสร้างงานไว้ให้สามารถเรียกใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องลงมือสร้างเอง
เครื่องมือหรือชิ้นส่วนที่ระบบเตรียมไว้ให้นี้เรียกว่า คอมโพเนนต์ (component)
ซึ่งอาจเป็นปุ่ม (button) ข้อความ (label) ช่องสำหรับกรอกข้อความ (edit box)
รูปภาพ (image) ผู้พัฒนาเพียงกำหนด คุณลักษณะเฉพาะและการกระทำของวัตถุแต่ละชิ้นเพื่อนำมาสร้างเป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์
ที่สามารถทำงานตามที่เราต้องการ โดยการประกอบชิ้นส่วนเหล่านั้นทำได้โดยการนำชิ้นส่วน
มาวางบนฟอร์มที่มีลักษณะคล้ายหน้าต่างหรือวินโดวส์ (windows) ผู้พัฒนาโปรแกรมสามารถกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมให้กับคอมโพเนนต์ได้
เช่น การกำหนดขนาด กำหนดตำแหน่ง กำหนดชื่อคอมโพเนนต์นั้นผ่านระบบติดต่อที่ตัวภาษาเตรียมไว้ให้โดยไม่ต้องเขียนรหัสคำสั่งเอง
ผู้ใช้จะเกี่ยวข้องภาษาเพียงการกำหนดตัวแปรที่ใช้งานเพิ่มเติม และการเขียนคำสั่งภายในการกระทำหรือโปรแกรมย่อยของคอมโพเนนต์เท่านั้น
|
|
|
โปรแกรมภาษาเครื่อง
(object program) |
|
คำสั่งในการเขียนโปรแกรมที่เครื่องสามารถอ่านได้ที่สร้างขึ้นโดยตัวแปลโปรแกรมหรือตัวแปลคำสั่งจากโปรแกรมต้นฉบับ |
|
|
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
(electronic mail : e-mail) |
|
การใช้ข่ายงานในการรับส่งข้อความโดยไม่ต้องสิ้นเปลือแสตมป์ โดยที่ข้อความนั้นจะถึงผู้รับในทันทีไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นระบบที่บุคคลส่งและรับข้อความระหว่างกัน โดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์
โมเด็ม และข่ายงานที่เชื่อมโยงถึงกัน ข้อมูลที่ส่งจะเป็นได้ทั้งตัวอักษร ภาพถ่าย
ภาพกราฟิก และเสียง ผู้ส่งสามารถส่งข่าวสารไปยังผู้รับคนเดียวหรือหลายคนพร้อมกันได้
โดยข่าวสารที่ส่งนั้นจะถูกเก็บไว้ในตู้ไปรษณีย์ (mail box) ที่กำหนดไว้สำหรับผู้ใช้งานในข่ายงาน
ผู้รับสามารถเปิดอ่านข่าวสารเมื่อใดก็ได้ตามความสะดวก เมื่ออ่านแล้วสามารถพิมพ์ลงกระดาษหรือจะลบทิ้งไปก็ได้
นอกจากการส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ในระบบข่ายงานธรรมดาแล้ว ยังสามารถส่งทางอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นระบบของการเชื่อมโยงข่ายงานคอมพิวเตอร์ที่กว้างขวางทั่วโลก
ช่วยให้การส่งและรับข้อความทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นไปได้ด้วยความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น |
|
|
ผังงาน
(flowchart) |
|
จำลอง
ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาในรูปของสัญลักษณ์ รหัสลำลอง (pseudo code) ซึ่งเป็นการจำลอง
ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหาในรูปของคำบรรยาย การใช้เครื่องมือช่วยออกแบบดังกล่าวนอกจากแสดงกระบวนการที่ชัดเจนแล้ว
ยังช่วยให้ผู้แก้ปัญหาสามารถหาข้อผิดพลาดของวิธีการที่ใช้ได้ง่ายและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
|
|
|
แผ่นรองสัมผัส
(touch pad) |
|
|
เป็นแผ่นพลาสติกที่ไวต่อการสัมผัสอยู่ตรงหน้า
แผงแป้นอักขระของเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เป็นอุปกรณ์ที่นิยมติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ๊คในปัจจุบันเนื่องจากใช้งานง่ายผู้ใช้สามารถใช้อุปกรณ์ชนิดนี้ควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวชี้บนจอภาพโดยการแตะสัมผัสไปแผ่นรองสัมผัสและสามารถคลิกหรือดับเบิ้ลคลิกเพื่อเลือกรายการเลือกหรือไอคอนได้
|
|
|
แผ่นระนาบกราฟิก
(graphic tablet) |
|
|
หรือ
เครื่องอ่านพิกัด (digitizing tablet) เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่มีส่วนประกอบ 2
ชิ้น ได้แก่กระดานแบบสี่เหลี่ยมที่มีเส้นแบ่งเป็นตาราง (grid) ของเส้นลวดที่ไวต่อสัมผัสสูง
และปากกาที่ทำหน้าที่เป็นตัวชี้ตำแหน่งหรือวาดรูปบนกระดาษข้างต้น คอมพิวเตอร์สามารถรับรู้ตำแหน่งของกระดานที่มีการสัมผัสหรือวาดเส้นที่วาดและแสดงบนจอภาพได้
อุปกรณ์ชิ้นนี้มักใช้ในการออกแบบรถยนต์หรือหุ่นยนต์ |
|
|
พจนานุกรมข้อมูล
(data dictionary) |
|
รายการของแฟ้มข้อมูลทั้งหมดในโปรแกรมการจัดการฐานข้อมูล
โดยรวมดัชนีและแฟ้มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ฐานข้อมูลไว้ด้วย |
|
|
|
พาริตีคู่ (even parity) |
|
ซึ่งเป็นการทำให้จำนวนของเลข
1 เป็นจำนวนคู่ เมื่อต้องการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ให้พิจารณาจำนวนของเลข
1 ที่ปรากฏในรหัสแทนข้อมูลนั้นร่วมกับบิตพาริตี ถ้ามีเป็นจำนวนคู่แสดงว่าข้อมูลถูกต้อง
แต่ถ้าได้เป็นจำนวนคี่แสดงว่าข้อมูลไม่ถูกต้อง |
|
|
เพนเทียม
(pentium) |
|
ไมโครโพรเซสเซอร์ที่มีความเร็วในการทำงานสูงที่สุดในปัจจุบันที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ระบบไอบีเอ็ม
พีซี และคอมพิวเตอร์แบบเดียวกับไอบีเอ็ม พีซี เพนเทียมจะมีความเร็วนาฬิกาตั้งแต่
60, 66, 90, 100, 120, 133 จนปัจจุบัน 3800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) |
|
|
โพรโทคอล
(protocol) |
|
คือข้อกำหนดหรือข้อตกลงที่ใช้ควบคุมการสื่อสารข้อมูลในเครือข่าย
ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หรือระหว่างคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์อื่นๆ
เครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้โพรโทคอลชนิดเดียวกันเท่านั้น
จึงจะสามารถติดต่อและส่งข้อมูลระหว่างกันได้ โพรโทคอลจึงมีลักษณะเช่นเดียวกับภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของมนุษย์ที่ต้องใช้ภาษาเดียวกันจึงจะสามารถสื่อสารกันได้เข้าใจ |
|
|
แฟ้มข้อมูล
(file) |
|
หมายถึงกลุ่มของระเบียนข้อมูลแบบเดียวกัน ซึ่งประกอบด้วยระเบียนข้อมูลตั้งแต่หนึ่งระเบียนขึ้นไป
|
|
|
ภาษาเครื่อง
(machine language) |
|
มีลักษณะเป็นรหัสเลขฐานสอง คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งมีคำสั่งที่ใช้ได้หลายร้อยคำสั่ง
แต่ละคำสั่งจะมีความหมายเฉพาะ เช่น คำสั่งนำข้อมูลที่มีค่าเป็น 3 จาก หน่วยความจำตำแหน่งที่
8000 มาบวกกับข้อมูลที่มีค่าเป็น 5 ในตำแหน่งที่ 8001 ผลลัพธ์ที่ได้ให้เก็บไว้ในหน่วยความจำตำแหน่งที่
8002 เมื่อเขียนคำสั่งเป็นภาษาเครื่องจะมีลักษณะเป็น เลขฐานสองเรียงต่อกันเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเข้าใจได้ยาก จึงมักใช้ตัวอักษรแทนรหัสภาษาเครื่องเหล่านี้ |
|
|
ภาษาโคบอล
(COmmon Business Orient Language : COBOL) |
|
ภาษาระดับสูงภาษาหนึ่งที่เหมาะสำหรับการใช้งานด้านธุรกิจ
เป็นภาษาสากลที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมีลักษณะคล้ายภาษาอังกฤษธรรมดา มีความสามารถในการค้นคืน
จัดเก็บ และประมวลผลทางด้านบัญชี รวมถึงการทำงานด้านการควบคุมคลังสินค้า การทำบิล
และรายรับ - รายจ่ายต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ |
|
|
ภาษาฟอร์แทรน
(FORmular TRaNslation : FORTRAN) |
|
ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงภาษาหนึ่ง
เป็นภาษาที่ช่วยให้นักเขียนโปรแกรมอธิบายและพิสูจน์การคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
ภาษานี้เป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางในงานด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ รวมถึงวิศวกรรมศาสตร์ด้วย |
|
|
ภาษาระดับต่ำ
(low - level language) |
|
เนื่องจากภาษาเครื่องเป็นภาษาที่มีความยุ่งยากในการเขียนดังได้กล่าวมาแล้วจึงไม่มีผู้นิยมและมีการใช้น้อย
ดังนั้นได้มีการพัฒนาภาษาคอมพิวเตอร์ขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเป็นรหัสแทนการทำงานและใช้การตั้งชื่อตัวแปรแทนตำแหน่งที่ใช้เก็บจำนวนต่าง
ๆ ซึ่งเป็นค่าของตัวแปรนั้น ๆ การใช้สัญลักษณ์ช่วยในการเขียนโปรแกรม ภาษาระดับต่ำเป็นภาษาที่มีความใกล้เคียงกับภาษาเครื่องมาก
ดังนั้นบางครั้งจึงเรียกภาษานี้ว่า ภาษาอิงเครื่อง (machine – oriented language)
ตัวอย่างของภาษาระดับต่ำได้แก่ ภาษาแอสแซมบลี (assembly language) เป็นภาษาที่ใช้คำในอักษรภาษาอังกฤษเป็นคำสั่งให้เครื่องทำงาน
เช่น ADD หมายถึง บวก SUB หมายถึง ลบ เป็นต้น การใช้คำเหล่านี้ช่วยให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้นกว่าการใช้ภาษาเครื่องซึ่งเป็นตัวเลขล้วน
|
|
|
ภาษาระดับสูง(high
- level language) |
|
เป็นภาษาที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเขียนโปรแกรม
กล่าวคือ ลักษณะของคำสั่งจะประกอบด้วยคำต่าง ๆ ในภาษาอังกฤษซึ่งผู้อ่านสามารถเข้าใจความหมายได้ทันที
ผู้เขียนโปรแกรมจึงเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสูงได้ง่ายกว่าเขียนด้วยภาษาแอสแซมบลีหรือภาษาเครื่อง
ภาษาระดับสูงมีมากมายหลายภาษา อาทิเช่น ภาษาฟอร์แทรน (FORTRAN) ภาษาโคบอล (COBOL)
ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาเบสิก (BASIC) ภาษาวิชวลเบสิก (Visual Basic) ภาษาซี
(C) และภาษาจาวา (Java) เป็นต้น โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาระดับสูงแต่ละภาษาจะต้องมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่แปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง
เช่น โปรแกรมแปลภาษาฟอร์แทรนเป็นภาษาเครื่อง โปรแกรมแปลภาษาปาสคาลเป็นภาษาเครื่อง
คำสั่งหนึ่งคำสั่งในภาษาระดับสูงจะถูกแปลเป็นภาษาเครื่องหลายคำสั่ง |
|
|
ภาษาแอสเซมบลี
(assembly language) |
|
ภาษาคอมพิวเตอร์ระดับต่ำแต่ยังสูงกว่าภาษาเครื่อง
1 ระดับ เป็นภาษาที่ใช้รหัสช่วยจำแทนคำสั่งภาษาครื่องซึ่งใช้ตัวเลขและเป็นภาษาที่ยาวและอ่านยากกว่าโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซี
หรือภาษาเบสิก แต่ภาษาแอสเซมบลีจะทำงานได้เร็วกว่าและใช้เนื้อที่น้อยกว่าโปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาอื่นๆ |
|
|
มาตรฐานการจัดระบบการเชื่อมต่อสื่อสารระหว่างระบบเปิด
(Open System Interconnection : OSI) |
|
ระบบดังกล่าวแบ่งชั้นการทำงานของเครือข่ายออกเป็น
7 ชั้น ซึ่งเป็นต้นแบบแนวคิดในการสร้างเครือข่ายเพื่อจัดแบ่งการดำเนินงานพื้นฐานของเครือข่ายออกเป็นงานย่อย
ทำให้ การออกแบบและใช้งานเครือข่าย รวมทั้งการติดต่อเชื่อมโยงเป็นไปด้วยความสะดวก
มีวิธีปฏิบัติในกรอบเดียวกัน การสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยฝ่ายผู้ส่งและผู้รับ
และจะเริ่มด้วยฝ่ายผู้ส่งต้องการส่งข้อมูลข่าวสารโดยผ่านชั้นมาตรฐาน 7 ชั้น
เมื่อข้อมูลผ่านขั้นตอนทั้ง 7 แล้วจะถูกนำไปเก็บไว้ในส่วนที่ทำหน้าที่ดูแลการจราจรบนเครือข่าย
เพื่อส่งไปยังเครื่องผู้รับซึ่งต้องผ่านชั้นมาตรฐานทั้ง 7 เช่นกันแต่จะเป็นไปใน
ทางตรงข้าม |
|
|
มินิคอมพิวเตอร์
(minicomputer) |
|
คอมพิวเตอร์สำหรับระบบหลายผู้ใช้ที่ออกแบบมาสนองความต้องการของบริษัทหรือหน่วยงานขนาดเล็ก
มินิคอมพิวเตอร์จะมีสมรรถนะสูงกว่าไมโครคอมพิวเตอร์แต่จะน้อยกว่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์
ปกติแล้วจะมีผู้ใช้มินิคอมพิวเตอร์ได้ตั้งแต่ 4-100 คนในเวลาเดียวกัน |
|
|
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์
(mainframe computer) |
|
คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูง
ออกแบบมาสำหรับระบบหลายผู้ใช้ (multiuser system) จึงเหมาะสำหรับใช้ในหน่วยงานขนาดใหญ่
แต่เดิมนั้นคำว่า mainframe หมายถึงตู้เหล็กสำหรับใส่หน่วยประมวลผลกลางของคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆ
คำนี้ถูกนำมาใช้โดยทั่วไปหมายถึงคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางขนาดใหญ่ที่พัฒนาในปลายทศวรรษ
1950s มาจนถึงทศวรรษ 1960s เพื่อใช้สนองความต้องการในการทำบัญชีและการจัดการสารสนเทศขององค์การขนาดใหญ่
คอมพิวเตอร์เมนเฟรมขนาดใหญ่ที่สุดจะสามารถทำงานร่วมกับเครื่อง dumb terminal
ได้เป็นพันๆ เครื่อง และใช้หน่วยเก็บรองเป็นจำนวนหลายล้านล้านไบต์ (terabytes)
เครื่องเมนเฟรมได้รับความนิยมใช้กันมากในระยะทศวรรษ 1970s - 1980s ในขณะที่ไมโครคอมพิวเตอร์ยังมีราคาสูงอยู่มาก
แต่ภายหลังจากที่ไมโครคอมพิวเตอร์มีราคาลดต่ำลง ความนิยมใช้ในเครื่องเมนเฟรมจึงลดน้อยลงตามลำดับ
เนื่องจากบริษัทและบุคคลทั่วไปหันมานิยมใช้ไมโครคอมพิวเตอร์และระบบข่ายงานกันมากขึ้น
|
|
|
ไมโครคอมพิวเตอร์
(microcomputer) |
|
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก
บางคนเห็นว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานส่วนบุคคล หรือเรียกว่า พีซี (Personal
Computer : PC) สามารถใช้เป็นเครื่องต่อเชื่อมในเครือข่าย หรือใช้เป็นเครื่องปลายทาง
(terminal) ซึ่งอาจจะทำหน้าที่เป็นเพียงอุปกรณ์รับและแสดงผลสำหรับป้อนข้อมูลและดูผลลัพธ์
โดยดำเนินการประมวลผลบนเครื่องอื่นในเครือข่าย อาจจะกล่าวได้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์
คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผล กลางเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ ใช้งานง่าย
ทำงานในลักษณะส่วนบุคคล |
|
|
ไมโครชิป
(microchip) |
|
คำที่เรียกวงจรรวม
(integrated circuit) อย่างไม่เป็นทางการ |
|
|