|
| หมวด
ก และ ข | หมวด ค และ ง |
หมวด จ, ช, ซและ ฐ | หมวด
, ด, ต, ท, น และ, บ |
หมวด ป, ผ, พ, ฟ, ภ, ม และ ย
| หมวด ร และ ล | หมวด
ว, ส และ ห | หมวด อ และ ฮ
| |
หมวด จ ช ซ และ ฐ |
|
|
จอภาพแบบซีอาร์ที
(Cathode Ray Tube :CRT) |
|
|
จอภาพแบบนี้ตะใช้กับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่วไป เป็นจอภาพที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีหลอดรังสีอิเล็กตรอน คือการยิงแสงอิเล็กตรอนไปยังผิวด้านในของจอภาพ
ผิวของจอภาพดังกล่าวจะฉาบด้วยสารฟอสฟอรัส ทำให้ตำแหน่งที่มีอิเล็กตรอนวิ่งมาชนเกิดแสงสว่างขึ้น
แสงสว่างที่แต่ละจุดทำให้เห็นเป็นภาพ |
|
|
จอภาพแบบแอลซีดี
(Liquid Crystal Display : LCD) |
|
|
เป็นเทคโนโลยีที่เริ่มการพัฒนามาใช้กับนาฬิกาและเครื่องคิดเลข เป็นจอภาพแสดงผลตัวเลขขนาดเล็ก
ใช้หลักการปรับเปลี่ยนโมเลกุลของผลึกเหลว เพื่อปิดกั้นแสงเมื่อมีสนามไฟฟ้าเหนี่ยวนำ
แอลซีดีจึงใช้กำลังไฟฟ้าต่ำ เหมาะกับภาคแสดงผลที่ใช้กับแบตเตอรี่หรือถ่านไฟฉายก้อนเล็กๆ
|
แอลซีดีในยุคแรกตอบสนองต่อสัญญาณไฟฟ้าช้า
จึงเหมาะกับงานแสดงผลตัวเลข ยังไม่เหมาะที่จะนำมาทำเป็นจอภาพ
เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น ผู้ผลิตแอลซีดีสามารถผลิตแผงแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จนสามารถเป็นจอแสดงผลของคอมพิวเตอร์ประเภทโน้ตบุ๊ค
และยังสามารถทำให้แสดงผลเป็นสี อย่างไรก็ตามจอภาพแอลซีดียังเป็นจอภาพที่มีขนาดเล็กแต่มีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
|
|
|
จอสัมผัส
(touch screen) |
|
|
เป็นจอภาพแบบพิเศษที่สามาถรับรู้ได้ว่ามีการสัมผัสที่ตำแหน่งใดบนจอภาพ
หลังจากเลือกตำแหน่งที่เลือกจะถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปยังซอฟต์แวร์ที่ทำงานเพื่อแปลเป็นคำสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน
โดยซอฟต์แวร์ที่ใช้งานมักเป็นซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเฉพาะ การใช้จอสัมผัสเหมาะกับการใช้งานหรือซอฟต์แวร์ที่ต้องมีการเลือกคำสั่งในรายการเลือกหรือไอคอน
โดยต้องออกแบบส่งนติดต่อผู้ใช้ให้มีไอคอนที่มีขนาดใหญ่เพื่อสะดวกในการเลือกและลดความผิดพลาด
|
|
|
จานแสง
(optical disk) |
|
|
สื่อที่สามารถบันทึกข้อมูลจำนวนมากสำหรับคอมพิวเตอร์โดยที่สารสนเทศที่บันทึกนั้นจะอยู่ในลักษณะความหนาแน่นสูง
(high density) ในรูแแบบของหลุมเล็กจิ๋วมากมาย ในการอ่านข้อมูลจะใช้แสงเลเซอร์ในการอ่านหลุมเหล่านี้
ตัวอย่างของจานแสงได้แก่ ซีดี-รอม และจานวีดิทัศน์ |
|
|
จียูไอ
(Graphical User Interface : GUI) |
|
การออกแบบส่วนของโปรแกรมให้มีการโต้ตอบกับผู้ใช้โดยการใช้สัญรูป
(icon) เพื่อแทนลักษณะต่างๆ ของโปรแกรม แทนที่จะให้ผู้ใช้พิมพ์คำสั่งต่างๆ
ในการทำงาน จียูไอจะมีหน้าต่างรายกเลือก และสัญรูปเพื่อใช้แทนคำสั่งเหล่านั้น |
|
|
จุดภาพ
(pixel) |
|
ส่วนที่เล็กที่สุดที่อุปกรณ์สามารถแสดงผลออกมาได้
จุดภาพนี้รู้จักกันว่าเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดหรือจุด(dots) ที่ประกอบกันเป็นภาพ
เรียกว่า picture element หรือเรียกสั้นๆ ว่า pel หรือกล่าวอย่างง่ายๆ ก็คือ
จอภาพคอมพิวเตอร์นี้เป็นตารางที่ประกอบด้วยจุดเล็กจิ๋วหลานพันจุด เรียกว่า
จุดภาพ (pixels) เมื่อใดก็ตามที่เราพิมพ์อักขระหรือวาดเส้นลงบนจอภาพ คอมพิวเตอร์จะแปลงจุดเหล่านี้ให้เป็นรูปแบบเพื่อแสดงสิ่งที่เราพิมพ์หรือวาดให้ปรากฏขึ้นมาให้เห็น |
|
|
ช่วงเวลาเข้าถึงข้อมูล
(access time) |
|
ช่วงเวลาตั้งแต่ขอข้อมูลจากอุปกรณ์เก็บข้อมูล
เช่น ดิสก์ หรือหน่วยความจำ จนกระทั่งมีข้อมูลมาถึงตัวอุปกรณ์ที่ขอ ได้แก่
เวลาในการดึงข้อมูลจากหน่วยความจำ คือช่วงเวลาที่ใช้ส่งตัวอักขระไปมากับโปรเซสเซอร์
โดยใช้เวลาในการดึงข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ก็คือ ช่วงเวลาที่วางหัวอ่าน/เขียนลงบนข้อมูลที่ต้องการ
โดยใช้เวลาในการดึงข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ไม่เกิน 15 มิลลิวินาที |
|
|
ชั้นกายภาพ (physical layer) |
|
เลเยอร์แรกและอยู่ล่างสุดใน 7 เลเยอร์ใน ISO/OSI model ทำหน้าที่กำหนดกระบวนการทางกายภาพ
ทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางกลไก และทางฟังก์ชันเพื่อใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ แปลงข้อมูลในรูปของสัญญาณดิจิทัลให้ผ่านตัวกลางแต่ละชนิดได้ |
|
|
ชั้นการนำเสนอ
(presentation layer) |
|
เลเยอร์ที่
6 จาก 7 เลเยอร์ของ ISO/OSI model ซึ่งจะแปลงข้อมูลที่ส่งมาให้อยู่ใน รูปแบบที่โปรแกรมของเครื่องผู้รับเข้าใจ
รวมทั้งการจัดรูปแบบและนำเสนอข้อมูลโดยกำหนดรูปแบบภาษา ชนิด และวิธีการเข้าถึงข้อมูลของเครื่องผู้ส่งให้เครื่องผู้รับเข้าใจ
เช่น การนำเสนอผ่านเว็บ การเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล |
|
|
ชั้นการประยุกต์
(application layer) |
|
เลเยอร์ที่ 7 ของ ISO/OSI model เป็นส่วนติดต่อระหว่างโปรแกรมประยุกต์ของเครือข่ายกับผู้ใช้
โดยคอมพิวเตอร์จะแปลงข้อมูลที่ได้รับจากผู้ใช้เข้าสู่ระบบ เช่น การเข้า ใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเครือข่าย
การถ่ายโอนข้อมูลและไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ |
|
ชั้นขนส่ง
(transport layer) |
|
เลเยอร์ที่
4 จาก 7 เลเยอร์ของ ISO/OSI model เป็นชั้นของการตรวจสอบและควบคุมการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องต้นทางและเครื่องปลายทางให้ถูกต้อง |
|
ชั้นเครือข่าย
(network layer) |
|
เลเยอร์ที่
3 จาก 7 เลเยอร์ของ ISO/OSI model ทำหน้าที่ควบคุมการส่งผ่านข้อมูลระหว่างต้นทางและปลายทางโดยผ่านจุดต่างๆ
บนเครือข่ายให้เป็นไปตามเส้นทางที่กำหนด รวบรวมและ แยกแยะข้อมูลเพื่อหาเส้นทางในการส่งข้อมูลที่เหมาะสม
|
|
ชั้นเชื่อมโยงข้อมูล
(data link layer) |
|
เลเยอร์ที่
2 จาก 7 เลเยอร์ของ ISO/OSI model ทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้บริการส่งข้อมูล
กล่าวคือ ส่งข้อมูลผ่านทางสายส่งโดยมีกระบวนการตรวจสอบความผิดพลาดของข้อมูล
อันเนื่องมาจากสัญญาณรบกวนที่เกิดในสายส่ง รวมทั้งมีการแก้ไขความผิดพลาดดังกล่าวด้วย
เป็นชั้นที่ควบคุมความถูกต้องระหว่างการส่งข้อมูลระหว่างจุด (node) 2 จุดที่อยู่ติดกันในเครือข่าย
|
|
ชั้นส่วนงาน
(session layer) |
|
เลเยอร์ที่
5 จาก 7 เลเยอร์ของ ISO/OSI modelทำหน้าที่สร้างการติดต่อระหว่างเครื่องต้นทางและปลายทาง
ตลอดจนดูแลการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องทั้งสองให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพโดยกำหนดขอบเขตการรับ
- ส่ง คือกำหนดจุดผู้รับและผู้ส่งโดยจะเพิ่มเติมรูปแบบการรับ - ส่ง ข้อมูลว่าเป็นแบบข้อมูลชุดเดียว
หรือหลายชุดพร้อมๆ กัน เช่น โมดูล (module) ของการ นำเสนอผ่านเว็บ |
|
ชิป
(chip) |
|
|
เป็นชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งของวงจรรวม
(integrated circuit : IC) ชิปเป็นวงจรไฟฟ้าขนาดจิ๋วทำด้วยคริสตัลซิลิคอน
(silicon crystal) หรือวัสดุอื่นก็ได้ที่ผลิตออกมาเพื่อการทำงานในลักษณะเดียวกับทรานซิสเตอร์หรือส่วนประกอบทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นเป็นจำนวนหลายแสนหรือหลายล้านตัว
ชิปมีขนาดเล็กกว่าปลายเล็บนิ้วมือคนเราก็จริงแต่ด้วยเทคนิคการผลิตในปัจจุบันทำให้สามารถบรรจุส่วนประกอบทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ได้มากถึง 16 ล้านส่วนทีเดียว |
ด้วยความสามารถดังกล่าวนี้จึงทำให้มีการผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กลงเรื่อยๆ
เพื่อสามารถพกพาไปทำงานที่ต่างๆ ได้โดยสะดวก ตัวอย่างหนึ่งของชิปคือ เพนเทียม
(Pentium) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีสมรรถนะในการทำงานเทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์และมีราคาขายไม่สูงมากนัก |
|
ซอฟแวร์กราฟิก
(graphic) |
|
การสร้าง
การดัดแปลง และการพิมพ์สิ่งที่เป็นภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ภาพกราฟิกที่ผลิตด้วยคอมพิวเตอร์มีอยู่
2 ประเภทใหญ่ๆ คือ กราฟิกเชิงวัตถุ (object-oriente graphics) หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า
กราฟิกเส้นสมมติ (vector graphics) และกราฟิกแผนที่บิต (bit-mapped graphics)
หรือที่เรียกว่า กราฟิกแรสเตอร์ (raster graphics)
โปรแกรมกราฟิกเชิงวัตถุจะเป็นโปรแกรมที่เรียกกันทั่วๆ
ไปว่า โปรแกรมวาดภาพ (draw programs) จะเก็บภาพกราฟิกไว้ในรูปแบบเชิงคณิตศาสตร์ที่สามารถปรับขนาดขงภาพได้โดยที่ไม่ทำให้เสียสัดส่วนของภาพ
โปรแกรมประเภทนี้เหมาะสำหรับงานด้านสถาปัตยกรรม การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการออกแบบ
(CAD) การออกแบบและตกแต่ภายใน และการใช้งานอื่นๆ ที่ต้องการสัดส่วนที่แน่นอน
โปรแกรมกราฟิกแผนที่บิตมักเรียกกันทั่วๆ ไปว่า
โปรแกรมระบายสี (paint programs) เป็นโปรแกรมที่เก็บภาพกราฟิกไว้ในรูปแบบของจุดบนจอภาพ
(screen pixels) เรียงต่อกัน โปรแกรมระบายสีนี้จะไม่เหมือนกับโปรแกรมวาดภาพเนื่องจากสามารถสร้างระดับสีเพื่อการตกแต่งได้อย่างสวยงาม
แต่ก็ไม่สามารถปรับขนาด หรือสัดส่วนของภาพได้มากนัก เพราะจะทำให้ภาพนั้นผิดรูปร่างไป |
|
ซอฟต์แวร์
(software) |
|
โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ซึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของคำสั่งที่จะสั่งงานให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน เพื่อประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการของการใช้งาน
ในปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ควบคุมระบบงาน ซอฟต์แวร์สำเร็จ ทำให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ในระดับบุคคลเป็นไปอย่างกว้างขวาง
และส่งเสริมการทำงานของกลุ่มมากขึ้น ส่วนงานในระดับองค์การ ส่วนใหญ่มักจะมีการพัฒนาระบบตามความต้องการโดยการว่าจ้างบริษัทที่รับพัฒนาซอฟแวร์
หรือโดยนักคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในฝ่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กร เป็นต้น |
|
ซอฟแวร์การทำสิ่งพิมพ์
(desktop publishing) |
|
การใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
(คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ) ในระบบการผลิตสิ่งพิมพ์ด้วยต้นทุนที่ไม่สูงมากนักเพื่อการเรียงพิมพ์ข้อความและภาพกราฟิก
กระบวนการของการจัดพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ซอฟแวร์ต่างๆ ได้แก่โปรแกรมการจัดหน้า โปรแกรมประมวลคำ และโปรแกรมกราฟิก
และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ เพื่อผลิตสิ่งพิมพ์ออกมา |
|
ซอฟต์แวร์ค้นผ่านเว็บ
(web browser) |
|
เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถสืบค้นและแสดงสารสนเทศที่
นำเสนออยู่ในรูปของเว็บเพจ (web page) ได้ โดยที่สารสนเทศดังกล่าวอาจจะเป็นสารสนเทศที่เก็บอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บรรจุซอฟต์แวร์ค้นผ่านเว็บหรืออยู่ที่เครื่องแม่ข่ายที่ให้บริการเว็บ
(web server) ที่ให้บริการเผยแพร่สารสนเทศบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต สารสนเทศเหล่านั้นอาจอยู่ในรูปของข้อความ
รูปภาพ เสียง หรือภาพเคลื่อนไหว โดยซอฟต์แวร์ค้นผ่านเว็บมีหน้าที่ติดต่อกับระบบเก็บข้อมูลที่เครื่องแม่ข่าย
รับคำสั่งจากเครื่องที่ใช้งานอยู่แล้วเรียกดึงข้อมูลที่อยู่ในเครื่องแม่ข่ายมาแสดงผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน
และนอกจากนี้ซอฟต์แวร์ชนิดนี้สามารถช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายโอนข้อมูลระหว่างเครื่องแม่ข่ายและลูกข่ายได้
ทั้งการส่งข้อมูลที่ต้องการเผยแพร่จากเครื่องลูกข่ายไปยังเครื่องแม่ข่ายที่เรียกว่าการบรรจุขึ้น
(upload) และการถ่ายโอนข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการจากเครื่องแม่ข่ายมาไว้ในเครื่องลูกข่ายที่เรียกว่าการบรรจุลง
(download) และในปัจจุบันผู้ใช้สามารถรับ-ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางซอฟต์แวร์ชนิดนี้ได้อีกด้วย
|
|
ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล
(DataBase Management System : DBMS) |
|
ระบบการจัดการฐานข้อมูล คือซอฟแวร์ระบบงานที่ควบคุมข้อมูลในฐานข้อมูล มีความสามารถทางด้านการจัดการแฟ้มข้อมูลมากมาย
เช่น การสร้างแฟ้ม การกำหนดความสัมพันธ์ของข้อมูล การประมวลผลข้อมูลหลายๆ
แฟ้มรวมเป็นระบบเดียว การจัดระบบข้อมูลให้เป็นระเบียบ การค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้
และการจัดการเนื้อที่ของหน่วยความจำได้
|
|
ซอฟแวร์ตารางทำงาน
(spread sheet) |
|
ซอฟต์แวร์สำเร็จตารางทำงาน
หรือกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือช่วยเพื่อการวิเคราะห์และคำนวณตัวเลขให้กับผู้ใช้ได้อย่างดี
เพราะการใช้งานซอฟต์แวร์นี้ จะเปรียบเหมือนกับการนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะทำงาน
ที่มีกระดาษแผ่นใหญ่ๆ ประกอบด้วยตารางสี่เหลี่ยมของช่องตามแนวแถวและสดมภ์จำนวนมากมายปรากฏบนจอภาพ
โดยแต่ละช่องบนตารางทำงาน
ภายในซอฟต์แวร์ตารางทำงานจะมีฟังก์ชันต่างๆ จัดมาให้เลือกใช้เรียบร้อยแล้ว
เช่น ฟังก์ชันการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันการคำนวณทางสถิติ ฯลฯ ซึ่งฟังก์ชันเหล่านี้เปรียบได้กับเครื่องคิดเลขที่วางบนโต๊ะทำงาน
ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลจากช่องต่างๆ บนตารางเป็นตัวแปรของฟังก์ชันหรือสูตรคำนวณ
เพื่อคำนวณให้ได้ผลลัพธ์ออกมา และนำไปใช้ในการคำนวณของช่องอื่นๆ ต่อไปได้อีก
|
|
ซอฟแวร์นำเสนอ
(presentation) |
|
โปรแกรมใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อสร้างและเสริมการเสนอแผนภูมิและแผนสถิติเพื่อให้เป็นที่ดึงดูดความสนใจและง่ายต่อการดูของผู้ชม
เช่น โปรแกรมโลทัส ฟรีแลนซ์ กราฟิก (Lotus Freelance Graphics) หรือไมโครซอฟต์
เพาเวอร์พอยต์ (Microsoft PowerPoint) ที่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกในการสร้างแผนภูมิและแผนสถิติ
ผู้ใช้สามารถเติมชื่อเรื่องและหัวข้อต่างๆ รวมถึงการใส่ข้อความเพื่ออธิบายเพิ่มเติมได้อย่างสะดวกง่ายดาย
และยังมีภาพต่างๆ (clip art) เพื่อนำไปประกอบในการใช้งานด้วย |
|
ซอฟแวร์บริหารโครงงาน
(project management) |
|
ซอฟแวร์ที่ติดตามงานของแต่ละบุคคลเพื่อช่วยให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ทั้งหมด
ทั้งนี้เนื่องจากการทำงานโครงการใหญ่ๆ เช่น การสร้างเรือดำน้ำ หรือการสร้างตึก
งานเล็กๆ หลายพันงานจำเป็นต้องเสร็จพร้อมๆ กันเพื่อนำมารวมกันในโครงการใหญ่
เทคนิคการจัดการโครงการจะเป็นสิ่งช่วยให้ผู้จัดการสามารถค้นพบและแก้ปัญหาวิกฤตได้
นั่นคือ งานทุกงานต้องเสร็จทันเวลาถ้าโครงการใหญ่ทั้งหมดจะต้องเสร็จตามกำหนดเวลา
โปรแกรมนี้ใช้ได้ง่ายมากโดยเพียงแต่ใส่วันที่เพื่อแสดงถึงวันที่เริ่มต้นโครงการ
และระยะเวลาของแต่ละขั้นตอนของกระบวนการเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือ ต้องแน่ใจว่าคนงานจะทำงานได้เสร็จตามเวลาหรือไม่เท่านั้น
ซึ่งโปรแกรมนี้จะช่วยติดตามการทำงานให้ได้ |
|
ซอฟต์แวร์ประมวลคำ
(word processor) |
|
เป็นซอฟต์แวร์ในการนำตัวอักษรมาเรียงต่อเป็นคำ ประโยคหรือย่อหน้า คล้ายการใช้เครื่องพิมพ์ดีดพิมพ์ข้อความบนกระดาษ
แต่ต่างกันที่ตัวอักษรที่พิมพ์หรือป้อนเข้าทางแผงแป้นอักขระจะเข้าไปเก็บอยู่ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์
ทำให้สามารถแก้ไขดัดแปลงได้ง่าย ภายใต้ข้อกำหนดของซอฟต์แวร์ผู้ใช้สามารถกำหนดปรับแต่งรูปแบบได้ตามต้องการ
เช่นการกำหนดเส้นกั้นหน้าและกั้นหลัง กั้นบนและกั้นล่าง เมื่อมีการแก้ไขจนเป็นที่พอใจแล้ว
สามารถสั่งพิมพ์เอกสารออกทางเครื่องพิมพ์ได้หลายชุดตามที่ต้องการ เอกสารที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์
จะมีคุณภาพดีไม่มีรอยเปื้อนจากการแก้ไขดัดแปลง นอกจากนี้ยังสามารถเก็บบันทึกเอกสารนั้นเป็นแฟ้มในสื่อบันทึก
เช่นแผ่นบันทึกเพื่อให้พกพาติดตัวไปใช้กับเครื่องอื่น แฟ้มเอกสารที่เก็บไว้แล้วนี้สามารถเรียกมาแสดงผลบนจอภาพเพื่อทำการดัดแปลงใหม่ได้อีกด้วย
|
|
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) |
|
คือซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์กับงานที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำ
ซอฟต์แวร์จัดเก็บภาษี ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์ตารางทำงาน ซอฟต์แวร์กราฟิก
ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล เป็นต้น การทำงานใดๆ โดยใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์จำเป็นต้องทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมของซอฟต์แวร์ระบบด้วย
ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคำต้องทำงานภายใต้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการเอ็มเอสดอสหรือวินโดวส์
เป็นต้น ซอฟต์แวร์ประยุกต์ได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่หลายในทุกวงการ ความนิยมส่วนหนึ่งมาจากขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ประยุกต์นั้นๆ
เพราะซอฟต์แวร์ที่ผลิตออกจำหน่าย ต่างพยายามแข่งขันกันหลายๆ ด้าน เช่น เรียนรู้และใช้งานได้ง่าย
สนับสนุนให้ใช้กับเครื่องพิมพ์ได้ดี มีคู่มือการใช้ซอฟต์แวร์ที่อ่านเข้าใจง่าย
ให้วิธีหรือขั้นตอนที่อธิบายไว้อย่างชัดเจน และมีระบบโอนย้ายข้อมูลเข้าออกกับซอฟต์แวร์อื่นได้ง่าย
|
|
ซอฟต์แวร์ระบบ
(systems software) |
|
คือซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการจัดการระบบคอมพิวเตอร์ จัดการอุปกรณ์รับเข้าและส่งออก
การรับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระ การแสดงผลบนจอภาพ การนำข้อมูลออกไปพิมพ์ยังเครื่องพิมพ์
การจัดเก็บข้อมูลเป็นแฟ้ม การเรียกค้นข้อมูล การสื่อสารข้อมูล ซอฟต์แวร์ระบบจึงหมายถึงซอฟต์แวร์ที่ดูแลจัดการอุปกรณ์ต่างๆ
ที่มีอยู่ในระบบ ซอฟต์แวร์ระบบที่รู้จักกันดี คือ ระบบปฏิบัติการ (operating
system) เช่น เอ็มเอสดอส ยูนิกซ์ โอเอสทู วินโดวส์ ลีนุกซ์ เป็นต้น คอมพิวเตอร์จะทำงานไม่ได้หากปราศจากระบบปฏิบัติการ
ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ เราสามารถสั่งงานผ่านระบบปฏิบัติการให้คอมพิวเตอร์คำนวณ
ให้แสดงภาพ ให้พิมพ์ข้อความหรือผลลัพธ์ออกมาทางเครื่องพิมพ์ นอกจากนั้นคอมพิวเตอร์ยังทำหน้าที่ประสานงานระหว่างโปรแกรมต่างๆ
กับตัวเครื่อง ซอฟต์แวร์ประยุกต์ไม่ว่าประเภทใดล้วนแต่ต้องทำงานบนซอฟต์แวร์ระบบทั้งสิ้น |
|
ซิลิกอน
(silicon) |
|
|
วัตถุดิบที่นำมาใช้ทำสารกึ่งตัวนำที่มีใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากมาย
ซิลิกอนเป็นธาตุที่พบในหินเกือบจะทุกประเภทและทรายตามชายหาด และนำมาผ่านกระบวนการทางเคมีแล้วจะได้สารกึ่งตัวนำขึ้นมา
ก้อนของซิลิกอนจะตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆ และนำมาเข้าแบบพิมพ์เป็นแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์เล็กๆ
เพื่อทำเป็นชิปซิลิกอนต่อไป |
|
ซีดีรอม
(Compact Disk Read Only Memory : CD-ROM) |
|
|
เป็นเทคโนโลยีที่ใช้จานแสงกับเครื่องเสียงสเตอริโอ
การใช้ซีดีรอมในระบบคอมพิวเตอร์มีจุดมุ่งหมายเพื่อเก็บข้อมูลจำนวนมาก และสามารถเก็บข้อมูล
ในรูปข้อความ ข่าวสาร รูปภาพ เสียงรวมทั้งภาพวิดีโอไว้ในแผ่นซึ่งพร้อมที่จะนำมาใช้ได้ทันที
แผ่นซีดีรอมหนึ่งแผ่นสามารถเก็บข้อมูลได้ถึงสามแสนหน้าหรือเทียบได้กับหนังสือ
150 เล่ม |
|
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์
(supercomputer) |
|
คอมพิวเตอร์ราคาแพงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานคำนวณที่ซับซ้อนด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เทคโนโลยีระดับสูงจะทำได้
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะใช้สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแบบจำลองที่ซับซ้อน
หรือใช้ระบบพลวัต เช่น สภาพอากาศของโลก เศรษฐกิจของประเทศ เหล่านี้เป็นต้น |
|
ไซเบอร์สเปซ
(cyberspace) |
|
จักรวาลหรือที่ว่างเสมือน
(virtual space) ที่สร้างขึ้นโดยระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าไปในไซเบอร์สเปซโดยการใช้โมเด็มและติดต่อพูดคุยกับผู้ใช้อื่นๆได้
ไซเบอร์สเปซจะอยู่ในรูปแบบของโลกเสมือนจริง (virtual reality world) หรือความสัมพันธ์ที่เห็นได้ง่ายๆ
คือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้พิสูจน์แล้วถึงความสามารถในการติดต่อกันระหว่างผู้ใช้ในที่ต่างๆ
ทั่วโลก |
|
ฐานข้อมูล
(database) |
|
แหล่งที่ใช้สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งอยู่ในรูปแฟ้มข้อมูลมารวมไว้ที่เดียวกัน
รวมทั้งต้องมีส่วนของพจนานุกรมข้อมูล (data dictionary) เก็บคำอธิบายเกี่ยวกับโครงสร้างของฐานข้อมูล
และเนื่องจากข้อมูลที่จัดเก็บนั้นต้องมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันทำให้สามารถสืบค้น
(retrieval) แก้ไข (modified) ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ข้อมูล (update)
และจัดเรียง (sort) ได้สะดวกขึ้นโดยในการกระทำการดังที่กล่าวมาแล้ว ต้องอาศัยซอฟต์แวร์ประยุกต์สำหรับจัดการฐานข้อมูล
|
|
|