Why Are Airplanes Usually White?

เคยสังเกตกันบ้างไหมว่า “ทำไมเครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่จึงมีสีขาว?” เหตุใดจึงไม่ใช้สีอื่นๆ ที่มีความสดใส หรือใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ หรือใช้สีประจำของสายการบินนั้นๆ เช่น การบินไทย น่าจะใช้เครื่องบิน สีขาว-ม่วง ไทยแอร์เอเชีย ใช้เครื่องบิน สีขาว-แดง หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ใช้เครื่องบิน สีขาว-ฟ้า เป็นต้น

จริงๆ แล้วลำตัวเครื่องบินหลังการผลิตประกอบเสร็จแล้ว ตัวเครื่องบินจะมีสีออกเขียวๆ จากสีรองพื้นเคลือบโลหะอลูมิเนียมและวัสดุสังเคราะห์ เพื่อป้องกันการเกิดออกไซด์หรือสนิมบนพื้นผิววัสดุเหล่านั้น ก่อนที่จะมีการพ่นสีต่างๆ ลงไปให้พื้นผิวเรียบเนียน ช่วยให้เครื่องบินทำการบินได้รวดเร็วขึ้นตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีการสังเคราะห์สีขึ้นมามีอยู่มากมายให้เลือกใช้กัน แต่สายการบินส่วนใหญ่ก็เลือกใช้สีขาวเป็นหลัก แล้วใส่ลวดลายหรือสัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายของสายการบินนั้นลงไปเล็กน้อยที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของลำตัวเครื่องเท่านั้น

มันต้องมีเหตุผลหรือจุดประสงค์บางอย่างซ่อนไว้แน่ สีขาวที่พ่นฉาบลงบนตัวเครื่องบินนั้น ไม่ใช่เพื่อความสวยงาม หรือการคงเอกลักษณ์ของเครื่องบินเพียงอย่างเดียว แต่ “สีขาว” ยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง มาไขข้อสงสัยเหล่านี้ไปพร้อมกันเลยดีกว่าครับ
1. เพื่อคุณสมบัติด้านอุณหภูมิ
สีขาว เป็นสีที่มีความสามารถในการสะท้อนแสงออกจากตัวมันได้ดีที่สุด ไม่เหมือนกับสีอื่นๆ ที่ค่อนข้างจะดูดซับแสงที่มาตกกระทบเอาไว้กับตัว ซึ่งหมายความว่า วัตถุที่ถูกเคลือบด้วยสีขาวจะมีความร้อนสะสมน้อยกว่า เมื่อเทียบกันกับสีอื่นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านแฟชั่นมักจะแนะนำให้ใส่เสื้อผ้าสีขาว หรือสีโทนสว่างในหน้าร้อน ซึ่งการที่เครื่องบินมีสีขาวเป็นสีพื้น ไม่เพียงแต่จะมีประโยชน์เมื่อทำการบินเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์เมื่อต้องจอดรอที่สนามบินอีกด้วย เพราะการจอดรอเที่ยวบินรอบต่อไปอาจใช้เวลานานเป็นชั่วโมง และต้องจอดรอในที่โล่งแจ้ง ทำให้เครื่องบินอาจสะสมความร้อนไว้มาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทำงานอยู่ในเครื่องบิน และจะทำให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่ได้รับความสะดวกสบายเนื่องจากความร้อนอีกด้วย

สีขาว หรือสีโทนสว่างเป็นสีที่สะท้อนแสงได้ดี จึงช่วยให้ตัวเครื่องบินได้รับความเสียหายจากรังสีดวงของอาทิตย์น้อยลง และยังช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องโดยสารไม่ร้อน ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายขณะเดินทางอีกด้วย
2. ง่ายต่อการสังเกตความเสียหาย
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทางการบินสูงสุด เครื่องบินจะต้องมีการตรวจสอบความเสียหายที่พื้นผิวของเครื่องเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น รอยแตก รอยบุบ หรือรอยขีดข่วน เพราะรอยเล็กๆ เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของการสูญเสียได้ ซึ่งการที่เราจะสังเกตเห็นร่องรอยความเสียหายเหล่านี้ ไม่มีสีอะไรที่เราจะเห็นความเสียหายได้ง่ายเท่ากับการที่ใช้ สีขาว เป็นสีพื้น เพราะเมื่อเกิดรอยของความเสียหาย รอยเหล่านั้นก็มักจะมีสีที่เข้มกว่าสีพื้นซึ่งเป็นสีขาว นอกจากนี้ เมื่อเกิดการรั่วของน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่องยนต์ หรือน้ำมันไฮดรอลิค ก็จะสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายเมื่อใช้สีขาวเป็นสีพื้นของเครื่องบิน

สีขาว จะช่วยให้มองเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นบนตัวเครื่องได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นรอยแตก การสึกร่อน จุดที่เกิดสนิม หรือรอยน้ำมันรั่ว ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาเหล่านี้ได้รับการแก้ไขที่เร็วที่สุด
3. ลดโอกาสการเกิดอันตรายจากนก
เครื่องบินสีขาว จะช่วยให้นกสามารถมองเห็นตัวเครื่องบิน และพื้นหลังแยกออกจากกันได้ชัดเจน ซึ่งจะลดโอกาสที่นกจะชนเข้ากับตัวเครื่องในระหว่างบิน ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยได้

4. สีขาวมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เครื่องบินจะต้องบินผ่านชั้นบรรยากาศระดับต่างๆ อยู่เป็นประจำ เมื่อเวลาผ่านไปสีที่ฉาบพ่นบนตัวเครื่องบินก็จะเกิดการซีดจางได้ โดยสีโทนขาวหรือโทนสีอ่อนจะมีระยะเวลาในการซีดจางที่นานกว่าสีโทนเข้มๆ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำสีใหม่ โดยการจะทำสีหรือลวดลายต่างๆ บนผิวอากาศยานจำเป็นจะต้องใช้ต้นทุนที่สูง ใช้แรงงานคนและเวลาเป็นอย่างมาก การจะเปลี่ยนสีเครื่องบินเพื่อการพาณิชย์นั้น จะต้องใช้สีจำนวนมากประมาณ 500 ลิตร ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 50,000-200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7-7 ล้านบาท) ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องบิน (โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 5-8 วันสำหรับเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป) และที่สำคัญการใส่สีหรือลวดลายต่างๆ ยังเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้อากาศยานอีกด้วย
การทำสีและลวดลายเครื่องบินใหม่เมื่อสีซีดจางในทุก 10-15 ปี
ถ้าเรานำสีที่เคลือบผิวออกจากผิวอากาศยานทั้งหมด น้ำหนักจะลดลงได้ในระดับ 500-1,000 กิโลกรัม ซึ่งจะชวยในการประหยัดน้ำมันได้ในแต่ละเที่ยวบินไม่ใช่น้อย
5. เครื่องบินสีขาวมีมูลค่าที่ดีกว่า
เช่นเดียวกันกับรถยนต์ สีที่นิยมที่สุดและราคาขายต่อดีที่สุดคือ สีขาว เมื่อสายการบินใช้เครื่องบินจนครบชั่วโมงการบินที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยสายการบินก็มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยน หรือทำการซื้อเครื่องบินลำใหม่เข้ามาประจำการแทน โดยเครื่องเก่าก็จะถูกขายออกไปเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ต่อไป ดังนั้น จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่สายการบินจะสั่งซื้อเครื่องบินที่มีสีอื่นๆ มาแล้วต้องมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนสีเป็นสีขาว

จากสถิติพบว่า เครื่องบินโทนสีเข้มจะมีมูลค่าในการขายต่อที่ถูกกว่า หรือต้องใช้เวลาในการขายแต่ละครั้งมากกว่าเครื่องบินโทนสีขาว เนื่องจากสายการบินส่วนใหญ่ต่างเห็นข้อดีของการใช้งาน “เครื่องบินสีขาว” มากกว่านั่นเอง
นอกจากการใช้สีขาวกับเครื่องบินแล้ว เราก็ยังสามารถประยุกต์ใช้สีขาว หรือสีโทนสว่างกับตัวบ้านภายนอก ที่ทำให้ตัวบ้านสามารถกันร้อน สะท้อนแดด ยืดอายุการใช้งาน ช่วยสร้างความสุขของการอยู่อาศัยให้ยาวนานยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
