บริการทางการแพทย์

อาการเจ็บป่วย หรือเหตุไม่คาดฝันของผู้โดยสาร อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อครับ รวมไปถึงการคลอดก่อนกำหนดด้วยนั่นเอง ซึ่ง หมอตำแยจำเป็น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ลูกเรืออีกแล้ว

ในการเรียน GMT เราก็ต้องมาเรียนวิธีการทำคลอดเบื้องต้นเช่นกันครับ ในกรณีไม่สามารถ Divert เครื่องได้ทันท่วงที ก็ถือว่าเป็นการท้าทายความสามารถของเหล่าลูกเรือเช่นเดียวกันนะครับ แต่ถึงอย่างไร MedLink จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือกระบวนการทำคลอดทั้งหมดด้วยครับ

หลังจากนั้น เราก็จะต้องมาเรียนการช่วยเหลือกลุ่มผู้โดยสารที่เป็นผู้พิการ ซึ่งทุกสายการบิน ที่มีจุดหมายปลายทางในประเทศสหรัฐอเมริกา จำเป็นจะต้องฝึกอบรมพนักงานกลุ่ม Front Line ให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการช่วยเหลือผู้พิการในทางเดินทางด้วยอากาศยาน

มิฉะนั้นแล้ว หากมีการร้องเรียน สายการบินจะต้องถูกปรับเป็นเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็จะกลับคืนมายังสายการบิน เพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการผู้พิการ ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา แต่ในทางกลับกัน เป้าหมายคือ การลดการเลือกปฏิบัติ (Discrimination) ต่อผู้พิการ โดยให้ปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกันกับบุคคลทั่วไป ท้ายที่สุด หากยังมีการกระทำที่ละเมิดสิทธิ หรือว่าถือเป็นการเลือกปฏิบัติแล้ว สายการบินก็อาจจะถูกยกเลิกใบอนุญาตบินเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ครับ

การให้บริการที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน

และแล้วก็มาถึงตอนที่สนุกและยากที่สุดของการเรียน Group medical Training แล้วครับ นั่นก็คือ Mock-up หมายถึง การจำลองสถานการณ์การป่วยจริง ว่าหากเกิดขึ้นแล้ว เราจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร รับมือกับเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ได้หรือไม่ครับ โดยจะแบ่งลูกเรือออกเป็นกลุ่มๆ แต่ละคนจะได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็น First response หรือผู้พบเหตุการณ์คนแรก และ Communicator คือผู้ช่วยที่ทำหน้าที่สื่อสารกับกัปตันและหัวหน้าพนักงานต้อนรับ รวมถึงคอยช่วยเหลือด้วยครับ

แน่นอนว่าความท้าทายก็เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนต้องแกล้งป่วย แกล้งไอ สำลัก หมดสติ อาการร้อยแปดเกิดขึ้นพร้อมกัน รอยหยักในสมองของพวกเราก็ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะตีความอาการของโรค และต้องรีบหาอุปกรณ์และยามาช่วยรักษาผู้โดยสารที่กำลังล้มลงต่อหน้าเราด้วยครับ ดังนั้น เมื่อเจอเหตุการณ์ฉุกเฉิน สติต้องมาก่อนนะครับ

ปิดท้ายคอร์สด้วยการสอบในคอมพิวเตอร์ มีทั้งหมด 25 ข้อ ความยากง่ายและระดับคะแนนต่างกันไป และนอกเหนือจากการเรียนเพื่อดูแลสุขภาพผู้โดยสารแล้ว เรายังต้องรู้จักดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยครับ ก็จะมีการเรียนวิธีการยกของหนัก และดูแลสุขภาพทั่วไปสำหรับลูกเรือด้วย

ได้รับเอกสารต่างๆ พร้อมที่จะก้าวไปสู่เที่ยวบินแรกในชีวิตแล้ว

ในวันสุดท้าย พวกเราก็ได้รับชุดเครื่องแบบพนักงานต้อนรับมากันแล้วครับ พร้อมทั้ง Passport ที่มี Residence Visa มาด้วย เรียกว่าตอนนี้ ใกล้จะเป็นลูกเรือเอมิเรตส์เต็มทีละครับ

และทุกคนก็มีความฝันที่จะเป็นลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีที่สุด และใจจดจ่อวันที่จะได้ขึ้นบินทำหน้าที่ครั้งแรก และลุ้นว่าเราจะได้บินบนเครื่องแบบใด เป้าหมายปลายทางคือเมืองอะไร และจะมีเหตุการณ์เหมือนที่เราเคยสมมุติขึ้นมั้ย หวังว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ