singapore_girl_10

เตรียมตัวเพื่อฝันสู่การเป็น Singapore Girl

Singapore Girl คือ สัญลักษณ์อันโดดเด่นของพนักงานต้อนรับ (ลูกเรือ) ของ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ซึ่งถูกสร้างให้เป็นตัวแทนของไมตรีจิต และความสง่างามแบบเอเชีย เครื่องแบบของสิงคโปร์เกิร์ลนั้นดัดแปลงมาจาก “โสร่งเกบาหยา (Kebaya) ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายแบบมลายู ออกแบบโดย Pierre Balmain เมื่อปี พ.ศ. 2511 และแทบไม่เคยถูกปรับเปลี่ยนมาจนถึงปัจจุบัน

แม้ว่า โสร่งเคบาหยาสีน้ำเงิน จะเป็นเครื่องหมายการค้าของสิงคโปร์แอร์ไลน์ แต่ก็ยังมีสีอื่นๆ อีกจำนวน 4 สีด้วยกัน โดยแต่ละสีจะบ่งบอกถึงตำแหน่งหน้าที่ของ Singapore Girl ที่สวมใส่ชุดนั้นๆ (ดูตามภาพประกอบได้เลย)

วันนี้ขอนำเอาประสบการณ์ของสาวมาเลเซียคนหนึ่ง ที่เธอได้เขียนเล่าประสบการณ์ในการล่าฝัน ไปสมัครเป็นลูกเรือของสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ Singapore Girl นั่นเอง โดยผมได้นำเอามาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้คนที่สนใจได้ทราบขั้นตอน และวิธีการเตรียมตัวต่างๆ (เธอไม่ขอเปิดเผยชื่อตัวเองนะครับ ด้วยกลัวว่าจะมีผลกระทบกับการทำงานของเธอ)

ประสบการณ์สู่ฝันเป็น Singapore Girl

ต้องบอกก่อนว่า ตอนนี้ฉันก็ยังรู้สึกตื่นเต้นไม่หายที่สามารถฝ่าดงสาวสวยกว่าพันคน เพื่อทำตามฝันที่หลายๆ คนพูดถึงกับการได้เป็นลูกเรือของสิงคโปร์แอร์ไลน์ ที่หลายๆ ที่บอกว่าเป็น “Singapore Girl” เป็นสายการบิน TOP5 ของโลก (เป็นลำดับที่ 1 ในปี 2018 จากการจัดลำดับโดย SkyTrax และลำดับ 2 ในปี 2019 นี้) และฉันก็มีความยินดีที่จะแบ่งปันเรื่องราวของการสมัครเป็นลูกเรือของ สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ ในการเข้าสมัครแบบ Walk-in เมื่อเดือนมีนาคม 2019 ที่ผ่านมา

แน่นอนว่า… กว่าจะมาถึงตรงนี้ ฉันได้อ่านบล็อกหรือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครลูกเรือ ดูวิดีโอใน YouTube มามากมายหลายรอบ และตะลุยอ่านบทความจำนวนมากจากหลายๆ ที่ทั้งในวารสารจากห้องสมุด จากเว็บไซต์ออนไลน์ต่างๆ และได้ตระหนักดีว่า “ทุกคน (ในสื่อที่อ่านๆ มา) ต่างก็พูดว่ามันยากมากที่จะผ่านได้” ดังนั้นฉันจึงกังวลใจมาก แม้จะรู้สึกว่า ฉันได้เตรียมความพร้อมมามากแล้วสำหรับการสมัครครั้งนี้ และตัดสินใจสมัครครั้งนี้เมื่อประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้า และได้ทำการเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ ของคนอื่นโดยเฉพาะการอ่านเคล็ดลับต่างๆ ที่หามาได้จากทุกที่

ฉันเริ่มจากการรวบรวมคำถาม (แนวทางการสัมภาษณ์) ทั้งหมดที่พบทางออนไลน์ และฝึกฝนด้วยการคิดตอบคำถามนั้นๆ แม้เมื่ออยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ห้องแต่งตัว หรือแม้แต่ตอนไปออกกำลังกายในโรงยิม (การออกกำลังกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์มเป็นเรื่องจำเป็นนะ รวมทั้งการว่ายน้ำให้ได้ระยะทาง 50 เมตรในท่าฟรีสไตลฺ์) หรือเมื่อใดก็ตามที่พอมีเวลาว่าง ต้องบอกว่า หนักมากกว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยเสียอีก เพราะนี่คือเป้าหมายสำคัญหนึ่งในชีวิต

เนื้อหาบทความต่อไปนี้ จะถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ ดังนี้ :

  • คำแนะนำสั้นๆ ของขั้นตอนการสัมภาษณ์
  • เคล็ดลับและสิ่งที่ควรทราบ
  • การเตรียมการพิเศษของฉัน
  • ข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ เท่าที่จดจำได้
  • ตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์ของสิงคโปร์แอร์ไลน์ (จะเรียกให้สั้นๆ ว่า SIA นะ)

คำแนะนำสั้นๆ ของขั้นตอนการสัมภาษณ์

จำนวนของขั้นตอนและวิธีการดำเนินการของสายการบินสิงคโปร์แอรไลน์ จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ก็จะมีขั้นตอนคล้ายๆ กัน ด้านล่างนี้คือ กระบวนการสัมภาษณ์ลูกเรือของ SIA : –

  • การสัมภาษณ์รอบที่ 1 : ผู้สัมภาษณ์ 2 คน ต่อผู้สมัคร 10 คน ให้นั่งเรียงกัน แล้วยืนขึ้นทีละคนแนะนำตัวเองและตอบคำถามง่ายๆ คนที่ผ่านไปได้ จะถูกขอให้รอข้างนอกอีกห้องหนึ่ง เพื่อรอการสัมภาษณ์ในรอบต่อไป
  • การสัมภาษณ์รอบที่ 2 : ผู้สัมภาษณ์ 2 คน ต่อผู้สมัคร 6 คน

A) จัดกลุ่มเป็นคู่ตามลำดับหมายเลข ให้เวลา 2-3 นาทีให้ได้รู้จักกัน (อย่าทำเป็นหยิ่ง ต้องรีบถามชื่อเสียงเรียงนามของเพื่อนว่า มาจากไหน เรียนจบอะไร ชอบอะไร ฯลฯ) จากนั้นเราจะถูกเรียกให้ยืนขึ้น และแนะนำเพื่อนของเรา (ไม่ใช่เรานะอย่าสับสน ถึงได้บอกว่า รีบทำความรู้จักกันในเวลาอันสั้นนี้ให้ได้มากที่สุด)
B) แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มๆ ละ 3 คน จะได้รับคำถามมาหนึ่งคำถาม ให้กลุ่มที่หนึ่งตอบแบบเห็นด้วย (หาเหตุผลมาสนับสนุนคำถามนั้น) และอีกกลุ่มให้ตอบไม่เห็นด้วย โดยลำดับที่ 1-3 เป็นกลุ่มที่เห็นด้วย และลำดับที่ 4-6 คือกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย การลุกขึ้นตอบคำถามจะถูกจัดลำดับเรียงกันดังนี้คือ 1, 4, 2, 5, 3, 6 (ต้องคิดและตอบฉับพลันมาก ฟังคนอื่นไปด้วยนะ อย่ามัวแต่ท่องความคิดของตัวเอง สติคร๊า สติต้องมั่นมาก)

  • การสัมภาษณ์รอบที่ 3 : ผู้สัมภาษณ์ 2 คน ผู้เข้าสัมภาษณ์ 1 คน นี่เหมือนกับการสัมภาษณ์งานปกติ พวกเขาต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณ และดูว่าคุณเหมาะสมกับงานในฐานะลูกเรือของ SIA หรือไม่
  • การสัมภาษณ์รอบที่ 4 : Kebaya เป็นการทดลองสวมชุดยูนิฟอร์ม (โสร่งเคบาหยา หรือเคบาย่า) การตรวจสุขภาพ และความสมบูรณ์ต่างๆ ผู้สัมภาษณ์ 1 คนและมีผู้ช่วย 1 คน

เคล็ดลับและสิ่งที่ควรทราบ

1. ก่อนอื่นคุณควรมั่นใจว่า คุณต้องการงานนี้จริงๆ เอ๊ะ! ยังไง? กล่าวอีกนัยหนึ่งคือคุณต้องเข้าใจงานนี้จริงๆ และความยากลำบากที่คุณจะต้องเผชิญเมื่อเข้าทำงานกับ SIA แม้ว่าจะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดที่คุณเคยได้ยินมา ซึ่งจุดประกายความสนใจของคุณสำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ตัวอย่างเช่น :

“มีสัญญาจ้าง 5 ปี เวลาทำงานที่ผิดปกติจากงานในสำนักงานทั่วไป (ตามตารางการบิน) ไม่ได้เริ่มงาน แปดโมงเช้าเลิกสี่โมงเย็น วันจันทร์ถึงศุกร์ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ นอกเหนือจากนั้น ด้านครอบครัว/เพื่อนสนิทหากคุณไม่ใช่ชาวสิงคโปร์ (ที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ และมาจากประเทศอื่น) วันคริสต์มาส ปีใหม่ เทศกาลสำคัญ หรือกิจกรรมในครอบครัว เช่น งานแต่งงาน งานรับปริญญาเพื่อน พี่-น้อง เป็นไปได้ยากที่จะได้มาร่วมงาน ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของบริษัทที่เข้มงวด มีลำดับอาวุโส มีความเสี่ยงที่จะต้องเลิกอาชีพนี้ หลังจากทำงานไปแล้ว 2 ปี ถ้าคุณทำผิดเช่น ลาบ่อยๆ หรือแอบไปแต่งงานจนตั้งครรภ์ คุณจะโดนค่าปรับ 13,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ (อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 1 SGD = 23 Baht [24/04/2562] คิดต่อเอาเองนะครับ)”

2. สำคัญมากที่จะต้องรู้ว่า สิ่งที่ SIA กำลังมองหาลูกเรือของพวกเขา ต่างจากสายการบิน Scoot หรือ AirAsia พวกเขาไม่ต้องการคนที่เด่นดัง และมั่นใจจนเกินไป คุณต้องแสดงให้เห็นว่า คุณมีความสงบอ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพมาก ฉันคิดว่า “พวกเขาต้องการใครสักคนที่อบอุ่น แต่ดูหรูหราในเวลาเดียวกัน”

3. สำหรับสัมภาษณ์รอบที่ 1 คำตอบของคุณไม่สำคัญ พวกเขากำลังดูว่า คุณพูดด้วยท่าทางมั่นใจ มีคุณลักษณะพิเศษโดยรวม ยิ้มแย้มแจ่มใสและผิวพรรณสัดส่วนร่างกายที่ดี ให้ตอบคำถามด้วยคำตอบง่ายๆ ตรงไปตรงมา นั่งและเดินอย่างถูกต้องและยิ้มอยู่เสมอ ฉันจะวางกระเป๋าและแฟ้มเอกสารไว้บนพื้นเสมอ และไม่เคยวางไว้บนตัก ฉันมักจะตรวจสอบให้แน่ใจว่า ฉันจับมือวางไว้ที่ท้องส่วนล่างของฉัน และวางเท้าของฉันให้ชิดกันไว้เมื่อนั่งหรือยืน คุณต้องแสดงให้เห็นว่า “คุณกำลังฟังอยู่เมื่อคนอื่นพูด แต่อย่าพยักหน้าแข็งขันเกินไป (เหมือนสนใจแต่ก็ไม่) แค่ให้เป็นธรรมชาติและยิ้มเสมอก็พอ”

4. สำหรับรอบที่ 2 ฉันคิดว่าพวกเขากำลังดูว่า “คุณสื่อสารกับผู้คนอย่างไร” เมื่อพูดคุยหรือฟังเพื่อนร่วมกลุ่มของคุณ ยิ้มและจำไว้เสมอว่าควรรักษาท่าทางที่ดีตลอดเวลา อย่าโดดเด่นเกินไป แต่อย่าเงียบเกินไป จนดูเหมือนว่าคุณจะไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างการสนทนา เพียงยิ้มและเป็นมิตร เหมือนที่คุณให้บริการผู้โดยสารในฐานะลูกเรือ ฉันคิดว่า คำตอบไม่จำเป็นต้องน่าประทับใจเช่นกัน ต้องเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและน่าทำ อย่าพยายามทำให้เป็นเรื่องตลก เพราะทุกคนอาจจะไม่เข้าใจเรื่องตลกของคุณ และคุณอาจถูกมองว่า “มากเกินไป” จงใช้ท่าทางและรอยยิ้มที่ดีเพื่อแสดงตัวตนของคุณออกมา

5. รอบที่ 3 ตอบคำถามด้วยวิธีการที่จะทำให้ผู้สรรหาจะรู้ว่า คุณเป็นผู้สมัครที่เหมาะสมที่จะเป็นสาวสิงคโปร์ (Singapore Girl) เช่น  มีแผนการทำงานที่จะทำให้คุณมีความมุ่งมั่นในระยะยาวกับ SIA เพื่อสุขภาพที่ดี ไลฟ์สไตล์การทำงานที่วุ่นวายของคุณ สามารถใช้ชีวิตที่ห่างเหินจากครอบครัว และเพื่อนสนิทได้ พูดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา ทักษะ และบุคลิกภาพของคุณ ฯลฯ

6. รอบที่ 4 ต้องไม่มีรอยสัก ปาน หรือแผลเป็นที่มองเห็นได้ พวกเขาตรวจสอบขาด้วยเช่นกัน แม้ว่าชุดยูนิฟอร์มโสร่งเคบาย่าของ SIA นั้นยาวพอที่จะคลุมขาได้ แต่พวกเขาก็ยังเข้มงวดน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับที่ใบหน้า ลำคอและแขนของเรา

7. คำถามที่ยากสำหรับฉันคือรอบที่ 3 เนื่องจากคำถามอาจไม่สามารถคาดเดาได้ และจะใช้เวลานานกว่ามาก เมื่อเทียบกับรอบที่ผ่านมา ที่ฉันต้องพูดเพียงสองสามประโยคเท่านั้น ฉันตื่นเต้นมากในรอบนี้เพราะฉันถูกถามคำถามที่ไม่ได้อยู่ใน “165 SIA interview Q & A cheat sheet” ที่เตรียมมา (อยู่ด้านท้ายบทความนี้) อย่างไรก็ตามคำถามที่ไม่คาดคิดก็ไม่ยากเกินไป และฉันก็ได้รับคะแนนโบนัสในรอบนี้

ผู้สัมภาษณ์ถามว่า “เมื่อใดที่คุณต้องการที่จะหยุดการทำงานเป็นลูกเรือ” ฉันบอกว่าตอนนี้ฉันไม่มีความคิดเพราะฉันยังไม่ได้เริ่ม และยังตื่นเต้นที่จะเริ่มทำงาน เขาพูดว่า “ในใจคุณต้องมีอะไรซักอย่างแน่” แล้วฉันก็ตอบ “บางทีอาจหลังจากที่ฉันได้เก็บเงินได้มากพอที่จะเกษียณ (ฉันตอบแบบซื่อๆ) จากนั้นเขาก็ถามว่า “การออมที่จะทำให้คุณนั้นประสบความสำเร็จมากแค่ไหน?” … “อืมม เอ๊ย ๆ … ถ้าฉันต้องมีเงินใช้จ่าย 2 พันเหรียญมาเลเซีย ไม่ซิ เงินริงกิตมาเลเซียทุกเดือน ฉันควรจะต้องมีเงินเก็บประมาณ 5000K ฉันยิ้มอย่างเชื่องช้า” แน่นอนว่าฉันดูไม่ค่อยสงบนักเมื่อตอบคำถามนี้และจริงๆ แล้วฉันรู้ว่า 5000k อาจจะน้อยเกินไป แต่อย่างน้อยพวกเขาก็รู้ว่าฉันไม่ได้แค่พล่าม และมีการวางแผนชีวิตของตัวเองจริงๆ

8. รอบที่ 4 เป็นรอบการทดลองสวมชุดเคบาย่า (Kebaya Fitting ชุดยูนิฟอร์มของ SIA) แต่มันก็เป็นจุดที่ฉันถูกเพ่งมองมากที่สุด (ฉันโดนกรรมการจัดไปอยู่ในกลุ่ม KIV) เนื่องจากปัญหาเรื่องน้ำหนัก ฉันค่อนข้างอ้วนด้วยค่าดัชนีมวลกาย 22+ (แต่ยังอยู่ในช่วงค่าดัชนีมวลกายที่มีสุขภาพดี ใครๆ ก็รู้นี่) และฉันเป็นกังวลในเรื่องนี้มาก จากข้อมูลที่เคยเห็นทางออนไลน์ที่บอกว่า “เราจะต้องอยู่ในช่วง BMI ที่มีสุขภาพดีเท่านั้น” แต่กรรมการบอกฉันว่า ฉันต้องลดน้ำหนักอีก 4 กิโลกรัม เพื่อให้ค่าดัชนีมวลกายของฉันต่ำกว่า 21 (บางทีมันอาจจะขึ้นอยู่กับผู้สัมภาษณ์หรือวิธีที่เขาดูการแต่งชุด Kebaya ก็เป็นได้) แล้วต่อไปอีกหนึ่งเดือนก่อนที่ฉันจะเริ่มงานในฝัน (การฝึกอบรม) ฉันต้องรีบไปจัดการเพื่อลดเจ้าส่วนเกิน 4 กิโลกรัมนี้ก่อนสิ่งใด

9. มาตรฐานการตรวจสภาพผิว จะเข้มงวดกับใบหน้า ลำคอ และแขนของเรา หนึ่งในผู้สมัครที่ฉันพบบอกฉันว่า เธอถูกปฏิเสธครั้งสุดท้ายในรอบนี้ เพราะเธอมีสิวบนใบหน้าของเธอ แต่ผิวของเธอดูโอเคสำหรับฉันในวันนั้น ฉันไม่แน่ใจว่ามันเป็นแสงสีเหลืองที่ทำให้ผิวของเธอดูดีขึ้น หรือกรรมการเข้มงวดจริงๆ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาไม่ชอบผิวมันด้วย เมื่อผู้สัมภาษณ์ถามว่าฉันมีแผลเป็น ไฝ หรือรอยสักไหม ฉันยกชุด Kebaya ขึ้นมาและโชว์ขาให้เธอดู

เธอถามว่า “ที่ไหน อยู่ที่ไหน?” ฉันพูด “จุดเล็กๆ จากยุงกัดเหล่านี้ทั้งหมด” “โอ้ไม่สำคัญหรอก มันไม่ชัดเจน” ยังไงก็ตามฉันก็มีไฝที่มองเห็นได้ค่อนข้างชัด ตรงกลางเหนือริมฝีปากของฉัน แต่ฉันก็แต่งหน้ากลบเกลื่อนรอยนั้นไป ฉันคิดว่า “มันโอเค” เพราะฉันคิดเสมอว่าไฝเหมาะกับฉันมาก 555 แต่กรรมการคนนั้นบอกฉันว่า ฉันสามารถปกปิดมันได้เล็กน้อย

10. เคารพผู้สัมภาษณ์เสมอ ฉันเห็นหลายคนบอกว่าพวกเขาถูกปฏิเสธ เนื่องจากปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เช่น การมีน้ำหนักน้อยกว่า 2 กก. มีแผลเป็นเล็กน้อย ฯลฯ ฉันรู้สึกว่าอาจเป็นเพราะผู้สัมภาษณ์ไม่ชอบพวกเขา ฉันยังมีความรู้สึกเป็นไปได้ว่า พวกเขาไม่ได้ทำอย่างถูกต้อง เมื่อพูดคุยกับผู้สัมภาษณ์ในรอบที่ 4 จำไว้ว่า “ในฐานะสาว SIA เราต้องถ่อมตัวเสมอ !!”

11. เกี่ยวกับ Kebaya มันเป็นชุดที่มี 2 ชิ้น เสื้อที่ด้านบนจะมีซิปหน้าให้ดึงขึ้น และกระโปรงแมกซี่กับเอวยางยืด อาจเป็นเรื่องยากที่จะหาขนาดที่เหมาะสม สำหรับคนที่ไม่ผอมอย่างฉัน มีผู้สมัครอีกคนที่เข้ามากับฉัน และเธอดูหุ่นใหญ่กว่าฉันอีก (แต่เธอมีส่วนโค้งมาก ไม่เหมือนฉันที่มีร่างกายเหมือนเด็ก) เราทั้งคู่ใช้เวลาหาขนาดที่เหมาะสมนานพอสมควร เธอสามารถบีบตัวเองเข้าไปในชุด Kebaya ชุดหนึ่งได้ แต่ฉันสามารถบอกได้ว่า “มันแน่นมาก” แต่เธอก็ยังดูดีเพราะเธอมีความโค้ง ฉันลงเอยด้วยเสื้อรัดรูปหลวมๆ แต่แล้วก็ถูกขอให้เปลี่ยนเป็นเสื้อที่เล็กกว่า ด้านบนนั้นแน่นมากและฉันคิดว่ามันมีรูปร่างที่น่าเกลียด ฉันไม่มั่นใจในการสวมใส่ชุด Kebaya จริงๆ ฉันควรใช้เวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเพื่อลดน้ำหนักให้ได้

12. ถ้าฉันจะต้องไปสัมภาษณ์อีกครั้งฉันจะมาถึงเร็วกว่า 2 ชั่วโมง ฉันมาถึงก่อน 6.30 น. เพราะฉันอยากเป็นคนแรกๆ ที่ไปสัมภาษณ์ และเห็นได้ชัดว่า ฉันเป็นคนแรกที่ได้ทำการลงทะเบียนซึ่งเริ่มต้นในเวลา 8.30 น. และการสัมภาษณ์ทั้งหมดสิ้นสุดลงก่อนเวลา 11.30 น. เพียง 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้นที่จะต้องรอนั่งบนเก้าอี้ หลังจากนั้นแทบจะไม่ได้รออะไรเลย

13. คุณสามารถลองวัดส่วนสูงของคุณมาก่อนได้ แต่ฉันสามารถบอกได้ว่า “พวกเขาเข้มงวดในการตรวจสอบความสูงมากจริงๆ” ก่อนการลงทะเบียนเราจะต้องวัดความสูงของตัวเราเองมาก่อน ความสูงของฉันที่เคยวัดในสถานที่อื่นจะอยู่ที่ประมาณ 162-164 เซนติเมตร แต่ฉันเพิ่งเขียนลงไปแค่ 162 เซนติเมตรเพื่อความปลอดภัย แต่การวัดที่ฉันได้ในวันนั้นคือเพียง 161.5 เซนติเมตร พวกเขาดันที่แถบการวัดมาเข้าที่หัวของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้รับการวัดที่ต่ำที่สุด (ที่ฉันคิดนะ)

14. อาจมีผลการเรียนและประสบการณ์การทำงานที่สำคัญ แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะผ่านการสัมภาษณ์ มีผู้สมัครอีกคนที่ตามฉันมาสมัครด้วย เธอเคยทำงานที่ สายการบิน Firefly 2 ปีและอีก 4 ปีกับ AirAsia X มันเป็นครั้งที่ 4 ที่เธอพยายามสมัครที่ SIA สำหรับการลอง 2 ครั้งแรกเธอล้มเหลวในการแข่งขันรอบที่ 2 ครั้งที่แล้วและครั้งนี้เธอไม่ได้ผ่านรอบแรก เธอมีท่าทางที่ดีแต่งตัวอย่างเรียบร้อย วิธีที่เธอพูดก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่สำหรับฉัน ฉันไม่เข้าใจถ้าไม่ใช่ประสบการณ์การทำงานหรือผลการเรียนของเธอ แล้วมันคืออะไร?

เธอเริ่มทำงานทันทีหลังจบมัธยมศึกษาตอนปลาย และฉันจำได้ว่าเธอบอกฉันว่า ผลลัพธ์ของเธอไม่ดีนัก แต่ฉันได้ยินว่า “สายการบินต้องการคนที่สดใหม่ เพราะพวกเขาฝึกได้ง่ายกว่า” อย่างไรก็ตามฉันยังเห็นคนที่ทำงานกับ Malindo Air เดินผ่านรอบที่สาม ดังนั้นพวกเขาอาจจะไม่สนใจถ้าคุณโดดเด่นจริงๆ ฉันจะบอกว่า ถ้าคุณจะอยู่ในอุตสาหกรรมสายการบินก็เพียงแค่พยายามทำให้ดีที่สุด!

15. คุณไม่จำเป็นต้องสวยมากที่จะเป็นสาวสิงคโปร์ที่ SIA ฉันมักจะได้ยินคนพูดว่า เราต้องสวยมากในการเป็นสาวสิงคโปร์ และฉันก็ค่อนข้างกังวล เพราะฉันไม่ได้เป็นหนึ่งในสาวสวยทั่วไปเหล่านั้น เพราะฉันอ้วน! แต่ไม่ต้องกังวล ฉันสะกดรอยตามเพื่อนคนหนึ่งของฉันที่เพิ่งเริ่มทำงานกับ SIA และฉันพบว่าเพื่อนร่วมกลุ่มของเธอไม่ได้เป็นคนสวยทุกคน มีทุกประเภท แต่ถ้าคุณไม่สวยมากให้แน่ใจว่าคุณมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่ทำให้คุณโดดเด่นจากคนอื่นๆ

16. ฝึกฝนในคำตอบของคุณเสมอ! ฉันเห็นวิดีโอ YouTube เกี่ยวกับผู้หญิงที่ให้คำแนะนำสำหรับการสัมภาษณ์ SIA จริงๆ แล้วเธอขอให้ทุกคนหยุดซ้อม ซึ่งฉันคิดว่าไม่ได้ผลสำหรับทุกคน สำหรับฉันแล้ว ฉันเป็นคนที่จะว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงเมื่อฉันกังวล การเตรียมคำตอบของฉันแน่นอนช่วยให้ฉันเปลี่ยนเป็น A จาก C ได้ ฉันคิดว่าการเตรียมคำตอบไม่ได้ทำให้ฉันด้อยลง ในความเป็นจริงฉันสามารถแสดงออกอย่างเต็มที่และให้คำตอบที่เกี่ยวข้องมากขึ้น มันไม่เกี่ยวกับการจำคำตอบมาตรฐาน มันคือการสำรวจสิ่งต่างๆ ที่ทำให้ตัวเองเป็นผู้สมัครที่เหมาะสม และคุ้นเคยกับประเด็นนั้นๆ มากกว่า ประโยคของฉันจะออกมาเหมือนกันทุกครั้งที่ฉันพูดถึงมัน

17. เช่นเดียวกับการสัมภาษณ์ปกติ โดยเฉพาะรอบที่ 3 มันเหมือนกับการสัมภาษณ์ปกติ มีสิ่งต่างๆ ที่ควรทราบ

  • ไม่มีการพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับคนอื่น (อย่าไปทับถมใคร)
  • ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและมีเหตุผลในการทำงาน
  • รักษาความซื่อสัตย์และจริงใจ แสดงถึงทัศนคติเชิงบวกโดยการยกตัวอย่างที่เป็นจริง
  • เมื่อถูกถามจากกรรมการว่า “มีคำถามใดๆ จะถามหรือไม่” ให้ถามสิ่งที่แสดงความสนใจในบริษัทที่คุณกำลังสมัครงานอยู่

การเตรียมการพิเศษของฉัน

แม้จะมีความจริงที่ว่า ฉันถูกบรรจุไว้ในกลุ่มบุคคลที่น่าสนใจ (KIV : Keep In View) ฉันยังคงรู้สึกขอบคุณมากที่ฉันผ่านมาได้ทุกรอบ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพราะมันเป็นความพยายามครั้งแรกของฉัน การทำงานหนักของฉันได้รับผลตอบแทน และฉันก็หวังว่าฉันจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้เช่นกัน! (จากการถ่ายทอดประสบการณ์นี้)

อย่างไรก็ตามยังมีความไม่แน่นอน แม้หลังจากผ่านการตรวจสอบในช่วงเดือนเมษายน ตัวอย่างเช่น บางคนไม่ผ่านการตรวจทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังมีคนที่ผ่านการตรวจทางการแพทย์ของพวกเขาในมาเลเซีย (บ้านเกิด หรือภูมิลำเนา) แต่กลับไม่ผ่านการตรวจในสิงคโปร์ (ใช่ฉันได้ยินมาว่า เราต้องไปตรวจสุขภาพที่ประเทศของเรา และในสิงคโปร์ด้วย) แม้ว่าฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่อาจเป็นไปได้ว่า เราไม่สามารถรับใบอนุญาตทำงานที่ในสิงคโปร์ได้ถ้าไม่ผ่านการตรวจจากที่นั่น ฉันคิดว่าฉันมีความกังวลมากและเน้นที่รายละเอียดจริงๆ ฉันได้ทำสิ่งพิเศษมากมายสำหรับการสัมภาษณ์รอบนี้ :

  • ปัญหาคือฉันมีอุบัติเหตุที่ทำให้เล็บนิ้วห้วแม่เท้าฉีกไป หนึ่งเดือนที่ผ่านมามีเพียงครึ่งเดียวที่งอกขึ้นมา เลยตั้งใจซื้อเล็บปลอมและใช้ superglue ติดมัน จากนั้นทาสีอย่างสวยงาม มันดูเหมือนของจริงจริงๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ
  • เนื่องจากรองเท้าส้นสูงของฉันมีขนาดประมาณ 9 ซม. ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงจริงๆ แล้วฉันก็ไปกังวลเกี่ยวกับวิธีการป้องกันการปวดเท้าจากการสวมรองเท้าส้นสูง เคล็ดลับที่ฉันใช้คือ การมัดนิ้วเท้าที่ 3 และ 4 ของฉันเข้าด้วยกัน (นับจากนิ้วเท้าใหญ่) ฉันคิดว่าฉันจะต้องยืนให้มาก แต่ไม่จริงเลยฉันต้องนั่งเกือบตลอดเวลา เพื่อให้เท้าของฉันไม่เจ็บเลย
  • ฉันนำสเปรย์ระงับกลิ่นปากมาใช้ทุกครั้งก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ การหลีกเลี่ยงกลิ่นตัวเป็นสิ่งสำคัญ!
  • ฉันไม่ได้เลือกชุดกระโปรงสีขาว + กระโปรงดินสอสีดำทั่วไป แต่ฉันเลือกเสื้อคอวีปัก (ไม่ใช่ซุปเปอร์วี) เป็นสีเบจ (แบบนี้มีความรู้สึกแบบเคบายะ) และกระโปรงสั้น เป็นทางการ แต่มีสไตล์เล็กน้อย
  • แม้ฉันจะชอบการเจาะเกลียวที่หูหลายๆ รู ชอบต่างหูใหญ่ๆ สำหรับการสัมภาษณ์ครั้งนี้ แม้ฉันจะรักการเจาะหูจริงๆ แต่ฉันไม่ต้องการเสี่ยง เพราะเขาไม่อนุญาตให้เจาะใบหูมากกว่าหนึ่งรู และไม่เจาะตามหน้าตา
  • ฉันทาสีเล็บด้วยสีนู้ดเพื่อให้เข้ากับชุดของฉัน ในขณะที่บางคนทำเล็บสีแดงเพื่อให้ดูเหมือนสาวสิงคโปร์ ฉันยังได้เลือกนาฬิกาสายรัดโลหะ และต่างหูมุกเรียบง่ายตกแต่งเล็กน้อย (ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตเมื่อทำงานในฐานะสาว SIA) เพื่อดูหรูหรามากขึ้น ฉันจะบอกว่าอย่าบ้าเกินไป เพื่อความปลอดภัยคุณสามารถเลือกต่างหูสตั๊ดหรือมุกที่เรียบง่าย
  • ฉันตื่นนอนตอนตีสี่เพื่อออกกำลังกายตามที่ฉันได้ยินมาก่อน เพื่อที่การสัมภาษณ์จะช่วยให้จิตใจของคุณชัดเจนเพิ่มพลังงานและลดความเครียดในการสัมภาษณ์
  • ฉันมีทริปไปญี่ปุ่นเดือนกันยายนนี้ ฉันซื้อตั๋วเครื่องบินโรงแรมและประกันการเดินทางตลอด 12 วัน แต่ฉันพร้อมที่จะยอมยกเลิกมันเพื่อรับงานนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม

หลังจากที่เราผ่านการสัมภาษณ์แล้ว เราจะต้องไปตรวจสุขภาพที่คลินิก/โรงพยาบาลในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ที่ได้รับมอบหมาย (หรือรับรองจาก SIA) และเป็นการตรวจฟรี จะเป็นการตรวจอย่างละเอียดหลายวันให้ครบถ้วน ถ้าพบความผิดปรกติในภายหลังว่า มีข้อบกพร่องในรายงานทางการแพทย์ของเรา เราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเองเมื่อต้องตรวจซ้ำ

สิ่งที่พวกเขาจะระวังในการตรวจสุขภาพ ตามคำตอบของผู้สมัครที่โพสต์ในปี 2549 คือ :
1. อาการหูหนวก (ตึง)
2. ตาบอดสี
3. ตาแห้ง (สำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์)
4. Heart murmur คือเสียงหัวใจอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการที่เลือดที่ไหลผ่านหัวใจมีการไหลปั่นป่วน มากพอที่จะเกิดเป็นเสียงให้ได้ยิน
5. HIV

จะไม่มีการตรวจเลือด แต่พวกเขาจะตรวจสอบ ความดันโลหิตของคุณ สายตา การได้ยิน การเต้นของหัวใจ เต้านม (สำหรับหาก้อนมะเร็ง) ข้อต่อ (แขน/ขา) ฟันและเหงือก คอ รูจมูก ดัชนีมวลกาย (BMI) และการทดสอบปัสสาวะ คุณจะต้องลงนามในแบบฟอร์มประกาศเกี่ยวกับความเจ็บป่วยในอดีต และปัจจุบันของคุณ เช่น โรคหอบหืด อาการเมารถ เป็นต้น

  • ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากคุณผ่านการตรวจจากแพทย์ ฉันได้ยินมาว่า จะมีการตรวจสุขภาพครั้งที่สองซ้ำในสิงคโปร์ และเราอาจพลาดในขั้นตอนนี้ได้เช่นกัน ต้องรอด้วยความอดทนว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตทำงาน ใจเย็นๆ
  • ฝ่ายจัดการจะยืนยันวันเข้ารับการฝึกอบรมเป็นลูกเรือกับคุณ เพื่อดูว่าคุณพร้อมเมื่อไหร่ พวกเขาจะจัดหาตั๋วเครื่องบินให้คุณเพื่อไปสิงคโปร์ คุณจะได้รับที่พักหนึ่งสัปดาห์ในโรงแรม เพื่อหาเช่าที่พักก่อนที่จะเริ่มการฝึกอบรม
  • การฝึกอบรมจะใช้เวลา 15 สัปดาห์ จะมีการอบรมประมาณ 2 ชุดต่อเดือน ประมาณชุดละ 20+ คน ในช่วงเวลานี้คุณจะได้รับเงินเดือนพื้นฐานคือ 1380 เหรียญสิงคโปร์เท่านั้น (ตามข้อมูลในปี 2549 จะมี 4 เที่ยวบินฝึกอบรมในช่วงเวลานี้และคุณจะได้รับเงินสำหรับการบินด้วย)
  • การทดลองงานจะใช้เวลา 6 เดือนหลังจากที่คุณเริ่มบิน คุณสามารถเริ่มวางแผนการเดินทางหรือลาหยุดประจำปีของคุณหลังจากเวลานั้นเท่านั้น (จากข้อมูลในปี 2011 คุณต้องยื่นใบลาประจำปีของคุณประมาณเดือนกันยายนสำหรับปีถัดไป มกราคม – ธันวาคม ซึ่งจะมีวันหยุดประจำปีให้ 21 วัน การลาในวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันสำคัญๆ และวันหยุดปีใหม่ยากที่จะได้รับอนุมัติ คุณต้องวางแผนชีวิตการลาหยุด 4 ถึง 15 เดือนล่วงหน้า แต่ไม่มีอะไรแน่นอนว่าจะได้วันไหน)
  • เงินเดือนจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 – 5,000 เหรียญสิงคโปร์ ขึ้นอยู่กับตารางบินรายเดือนที่จัดโดยฝ่ายจัดการ (จากข้อมูลเมื่อปี 2018 ลูกเรือระดับหัวหน้างานจะมีโบนัสมากถึง 6 เดือน (จ่ายในเดือนกรกฎาคม) ค่าแรงพิเศษรายปีให้เท่าเงินเดือนหนึ่งเดือนจะจ่ายในช่วงเดือนธันวาคม)
  • 13,800 เหรียญสิงคโปร์ คือค่าปรับสำหรับลูกเรือที่ทำงานไม่ครบตามสัญญาภายใน 2 ปีที่ให้ไว้กับ SIA (กรณีลาออกก่อนกำหนด การทำผิดข้อบังคับเช่น ขาดงาน หรือการแต่งงานมีครรภ์)
    ตามข้อมูลในปี 2013 ลูกเรือที่ทำงานดีเมื่อครบสัญญา 5 ปีแรกจะได้รับเงินเดือน 10,000 เหรียญสิงคโปร์ และสัญญาที่สองจะได้ 25,000 เหรียญสิงคโปร์ เมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นตำแหน่งที่สูงกว่า (ผู้ช่วยหัวหน้า/หัวหน้าลูกเรือ) จะได้รับเงินจำนวน 65,000 เหรียญ หลังจากสัญญาฉบับที่ 5 และทาง SIA ยังทำประกันภัยความคุ้มครองสำหรับลูกเรือทุกคนด้วย (วงเงิน 100,000 ดอลลาร์ต่อคน)

SIA interview Q&A’s cheat sheet

นี่คือตัวอย่าง “คำถาม” ในการสัมภาษณ์ของ SIA ที่ฉันรวบรวมมาจากที่ต่างๆ และได้ใช้ในการฝึกฝนสำหรับการหาคำตอบที่เป็นเรา ที่จะบอกให้กรรมการผู้สรรหามองว่า “เราเหมาะสมที่จะเป็น Singapore Girl หรือไม่” เอาไปลองฝึกคิดหาคำตอบซ้อมกันไว้ก่อน จริงๆ แล้วก็อาจจะนำไปใช้กับสายการบินอื่นได้อยู่นะ

มันเหมือนเป็นคำถามง่ายๆ ไม่น่าถาม แต่เชื่อไหม? ในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันอย่างนั้น ถ้าคุณไม่เตรียมตัวมาก่อน คงตะกุกตะกักตอบกรรมการไปแบบขาดความมั่นใจแน่ๆ แต่ถ้าคุณเตรียมตัวมาดี ตอบได้ทันท่วงที ฉาดฉาน มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ย่อมทำให้กรรมการพึงพอใจได้ แม้คำตอบนั้นจะไม่ถูกต้องตรงความจริงมากนักก็ตาม

1. Introduce yourself. (แนะนำตนเองในสิ่งดีๆ เหมาะสมกับงานนี้)
2. What did you eat for breakfast? (ไม่น่าถาม แต่เชื่อไหมว่า คำตอบของคุณจะทำให้กรรมการยิ้ม หรือมองบนได้)
3. Favorite local breakfast (อาหารเช้าที่บ้านเรา อันนี้ต้องพยายามสื่อให้เห็นคุณค่าของอาหาร)
4. Favorite food
5. Favorite book and lesson learned
6. Favorite movie and lesson learned
7. Favorite song
8. Favorite number
9. Favorite color
10. Favorite subject in school.
11. Favorite drink.
12. Black/white and why (คุณคิดว่าเขาถามอะไร ตอบได้หลายมุมมองนะ ฉันตอบเรื่องความดี/ความชั่ว)
13. One bad thing you heard about SIA
14. One good thing you heard about SIA
15. What makes you angry?
16. What should a leader possess?
17. What do you think about teamwork?
18. Who has the greatest influence on you?
19. Who is the person you respect the most?
20. What is your career plan? (คำถามนี้ทำให้ฉันได้โบนัส อ่านข้อ 7 สัมภาษณ์รอบที่ 3)
21. What is important in communication?
22. Why is communication important?
23. How do you overcome difficulties?
24. One personality you don’t like about yourself?
25. One personality that you don’t like?
26. Can you work under pressure? How?
27. Have you ever failed? How do you handle failures?
28. How do you handle change?
29. How do you motivate people?
30. Describe a time you resolved a conflict?
31. The hardest thing you did in your current job.
32. Do you consider yourself a loyal employee?
33. What have you learned in your current job?
34. What did you dislike about your last employer?
35. Describe your current coworker.
36. What would your coworker describe you?
37. What would you last employer say about you?
38. Are you satisfied with your performance in current company?
39. Do you consider yourself a success?
40. What kind of decisions are hardest to make?
41. How important is appearance?
42. What is your biggest regret?
43. Latest news you have read?
44. Hobby. (กิจกรรมยามว่างของคุณ แนะนิดหนึ่งอย่าเสนอกิจกรรมที่อดตาหลับขับตานอน เพราะเขาต้องการลูกเรือที่พักผ่อนนอนหลับเพียงพอ พร้อมทำงานทุกเวลา ไม่ใช่ผีดิบนะ)
45. What is your source of motivation?
46. What makes you unique? Why should we choose you but not other candidates?
47. Do you think breakfast is important?
48. Why do you want to become a cabin crew?
49. What quality do you have as a cabin crew?
50. Nickname and why? (ชื่อเล่น ต้องอธิบายหน่อยว่า มันทำไมถึงใช้ชื่อแบบนี้)
51. Do you prefer sunset of sunrise?
52. Do you prefer ice cream or cake?
53. How to be mentally and physically fit?
54. Relate study with cabin crew.
55. What do you know about the job as a cabin crew?
56. What is your aim as a cabin crew?
57. Where would you bring your foreign friend to (MY)?
58. Where would you bring your foreign friend to (SG)?
59. How to handle unsatisfied passenger?
60. What do you know about customer service?
61. How do you manage your anger and emotions?
62. Strength (prepare 2 just in case)
63. Weakness (prepare 2 just in case)
64. If you were given a free ticket, where in the world would you go and why?
65. What does your current company do?
66. What do you do in your current company?
67. Why do you want to leave your current company?
68. Why do you want to work with SIA but other airlines?
69. What do you see yourself in 5 years?
70. What can you bring to SIA?
71. Why didn’t you work in the field that is related to your degree?
72. Do you gain/lose weight fast?
73. Tell me about your family.
74. Do you do housework?
75. When do you plan to get married?
76. Is it ok to stay in Singapore?
77. What will be the sacrifice if you have to work with SIA?
78. How long do you want to be a cabin crew?
79. How well prepared are you for this interview?
80. Are you an achiever?
81. What is your biggest achievement?
82. What is the most achieving working experience?
83. Why is service important?
84. How about SIA inflight service?
85. Greatest obstacle if you get this job
86. How do you handle passengers?
87. How do you differentiate normal and exceptional customer service?
88. Describe your working style
89. Describe your communication style
90. What quality do you like in your friends/coworkers?
91. Are you a day/night person?
92. The first thing you notice about a cabin crew?
93. Describe yourself in 3 words (อันนี้ไม่ง่ายนะ ขอ 3 คำที่บ่งบอกความเป็นคุณ)
94. What if someone disagrees with you?
95. What u do when receive bad service?
96. Name 3 passenger expectations from cabin crew.
97. What types of passengers do you like to serve?
98. How do you anticipate passengers need?
99. What did you do the day before interview?
100. What to do if you pass?
101. What is your favorite type of article in newspaper?
102. Name one happiest moment.
103. Name one saddest moment.
104. What type of work do you like the most?
105. How do you handle stressful situation?
106. If you cannot get this job, what other job will you do?
107. Would you choose strong or weak person to work with you?
108. How to handle arguments between passengers?
109. How do you feel about the dress code and professional standard?
110. What to do after resignation as a cabin crew?
111. Where would you bring your first date?
112. What superhero do you want to be?
113. What is your biggest fear?
114. What have your learned in your degree?
115. How do you earn trust?
116. How to determine priority of task?
117. What makes coworker/boss difficult? How do you interact with them?
118. If you suffer from a setback, how does that affect you and your work?
119. Tell a time when communication becomes an issue when working as a team.
120. Rate your communication skill with example to back up your rating.
121. How do you get along with people at work?
122. When have you had to shift your priorities in response to sudden changes?
123. List the top 3 skills that will make you an ideal team member at SIA.
124. Are you comfortable with the policy of wearing uniform to work?
125. Employees of SIA are expected to be reliable, on time, and accessible when on shift. Do you consider yourself to be a dedicated employee?
126. What do you think you are lack of to work as a cabin crew?
127. As a cabin crew you will be asked to work a wide range of hours and a lot of overtime. Are you able to accommodate the unpredictable schedule associated with being a cabin crew?
128. Do you have any formal training in First Aid or CPR?
129. If you have to be a celebrity for a day, who do you want to be and why?
130. What do you usually have for lunch and why?
131. If you were stuck on a deserted island, who would you want to be stuck on there with?
132. How determine are you in wanting to be a cabin crew with SIA?
133. Why must a cabin crew smile a lot?
134. What types of people would SIA want as cabin crew?
135. What are your short-term and long-term goals?
136. What’s your name? Why?
137. What to improve on SIA?
138. Putting baggage to compartment is not a task of a cabin crew but what if a passenger asks?
139. Are you afraid of airplane accidents?
140. Why did you choose your current job?
141. What is the feedback from your client?
142. How to handle first nervous traveler?
143. Where is your hometown?
144. What if passenger snores?
145. SIA cabin crew uniform designer: Pierre Balmain
146. What if you spill water on a passenger?
147. Are you afraid of height/water?
148. What interests you?
149. What makes you think you will be happy being a cabin crew?
150. Do you have any question to ask?
151. Beauty vs brain
152. Ability vs opportunity
153. Man should be the breadwinner of family.
154. Social media brings us closer.
155. Abortion.
156. Do you think human should sell organ just to get money?
157. Money/job satisfaction
158. Married couple lives with family
159. Beautiful make more money
160. Should senior be sent to old folk home?
161. Singapore is a fine city
162. Grab service is efficient
163. Money can buy happiness
164. Plastic surgery and pageant
165. An apple a day

จริงๆ แล้วไม่มีคำตอบใดถูกหรือผิด เพียงคุณต้องตอบแล้วให้เหตุผลให้ได้ว่า ทำไม? คุณจึงคิดเช่นนั้น อย่าลืม! ตอบฉับพลัน ฉะฉาน มั่นใจ ตาเป็นประกายและมีรอยยิ้ม คุณจะชนะขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน แล้วมาพบกันที่ SIA ตามหาว่า สาวมาเลเซียนคนนี้คือใคร? (แต่อย่าตามหาสาวอวบนะ เพราะฉันคงลดน้ำหนักลงได้แล้ว เพื่อชุดเคบาย่าที่สวยงามของฉัน)

Loading

About Post Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

error

Enjoy this blog? Please spread the word :)