Cabin Crew Do While Passengers Sleep
Cabin Crew Do While Passengers Sleep
เมื่อเราเดินทางด้วยเที่ยวบินระยะไกล (long-haul flights) ข้ามประเทศ ข้ามทวีป เคยสงสัยกันไหมว่า หลังจากที่เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจนได้ระดับแล้ว เราจะเห็นลูกเรือออกมาให้บริการผู้โดยสารด้วยการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม แล้วต่อจากนั้นล่ะ เมื่อผู้โดยสารได้รับบริการแล้วก็มักจะพักผ่อนดูหนังฟังเพลง หรือบ้างก็งีบหลับไป แล้วบรรดาลูกเรือหรือที่เราเรียกว่า “พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (Cabin Crew)“ พวกเขาทำอะไรในช่วงช่วงเวลาอันเงียบสงบนี้? และนี่คือสิ่งที่พวกเขาทำกันเมื่อคุณ (ผู้โดยสาร) นอนหลับ
1. ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
มีงานที่ต้องทำอยู่เสมอ
เมื่อพวกเราลูกเรือให้บริการเสร็จสิ้นระหว่างเที่ยวบินระยะไกล ก็มักจะมีการยืดเวลาออกไปอย่างเงียบๆ โดยปกติไฟจะหรี่ลง (ลดความสว่าง) เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถนอนหลับได้ แต่จะไม่มีการนอนสำหรับลูกเรือ พวกเขายังคงปฏิบัติหน้าที่และทำงานต่อไป ซึ่งหมายถึงการรอเสียงกริ่งเรียกของผู้โดยสารในการขอบริการเพิ่มเติม หรือการเรียกจากลูกเรือในห้องครัวอื่นๆ หรือจากกัปตันในห้องนักบิน พวกเราจะนำถาดเครื่องดื่มออกมาบริการทุกชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้โดยสารสามารถดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้ได้ในตอนกลางคืนเมื่อต้องการ
ลูกเรือจะจัดเตรียมบริการชุดถัดไป ซึ่งโดยปกติจะเป็นอาหารเช้า พวกเราจะขนของเข้าเตาอบและเริ่มทำอาหารและจัดรถเข็นอาหารและเครื่องดื่ม ห้องครัวได้รับการดูแลให้เรียบร้อยอยู่เสมอ และสิ่งของต่างๆ จะถูกล็อคอย่างแน่นหนาในกรณีที่เกิดความวุ่นวายกะทันหัน พวกเรายังจะจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น รายการสต็อกของอาหารและเครื่องดื่ม หรือรายงานการทำงานอื่นๆ บนเที่ยวบินที่อาจจำเป็น
2. พักผ่อนในพื้นที่ลับเฉพาะ
การได้พักผ่อนในช่วงสั้น ๆ
ในเที่ยวบินระยะไกล พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะมีช่วงเวลาพักสั้นๆ โดยทั่วไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของเที่ยวบิน อาจใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินจากดูไบไปกรุงเทพฯ หรืออาจถึง 14 ชั่วโมงจากดูไบไปซิดนีย์ เครื่องบินลำตัวกว้างที่ใช้บริการเที่ยวบินระยะไกลจะมีพื้นที่พักผ่อนโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกเรือได้นอนหลับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องบิน บนเครื่องบินบางลำ นี่คือห้องที่มีเตียงสองชั้น อยู่ด้านท้ายหรือด้านบนหรือด้านล่างห้องโดยสาร เข้าถึงได้ด้วยประตูและบันไดที่ล็อคไว้ พื้นที่พักผ่อนของลูกเรือบางลำจะมีความธรรมดามากกว่า และเป็นเพียงที่นั่งแถวที่กำหนดไว้ที่ด้านหลังของห้องโดยสาร พร้อมม่านเพื่อความเป็นส่วนตัว ลูกเรือครึ่งหนึ่งไปพักผ่อน อีกครึ่งจะยังทำหน้าที่เฝ้าคอยให้บริการสลับกัน
ลูกเรือบางคนใช้เวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่และนำหมอนเล็กๆ ผ้านวม ชุดนอน และขวดน้ำร้อนมาเอง เมื่อเครื่องบินเริ่มหนาวมาก อย่างไรก็ตาม พื้นที่พักผ่อนของลูกเรือก็อาจทำให้อึดอัดได้เช่นกัน ดังนั้น ลูกเรือบางคนจึงอยู่ในห้องครัวและพักผ่อนบนที่นั่งลูกเรือ (jump seats) โดยปิดม่าน ไม่ใช่ทุกคนที่จะนอนหลับตามความต้องการได้ ดังนั้นการพักผ่อนของลูกเรืออาจเป็นเพียงการใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการฟังเพลงที่ชอบ หรือชมภาพยนตร์
3. ทานอาหารและน้ำ
เติมพลังก่อนใช้บริการครั้งต่อไป
ลูกเรือมักจะมีอาหารของตัวเองบนเครื่อง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายการบิน ลูกเรือแต่ละคนจะแยกชนิดอาหารที่แตกต่างกันออกไป เพราะหากมีกรณีอาหารเป็นพิษ จะมีลูกเรือเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะป่วย แทนที่จะเป็นทั้งหมด (หวังว่า!) ลูกเรือมักจะมีอาหารที่หลากหลาย โดยจะมีตัวเลือกมังสวิรัติหรืออาหารอื่นๆ พวกเขาจะตัดสินใจระหว่างกันเองว่าใครอยากกินอะไร ลูกเรือบางคนนำอาหารมาเอง เนื่องจากไม่ชอบรสชาติอาหารของสายการบินก็มี และเป็นที่รู้กันว่ามักจะมีเครื่องปรุง เช่น เกลือ น้ำตาล และน้ำมะนาว เพิ่มเข้าไปเพื่อให้อร่อยยิ่งขึ้น (เคยเห็นลูกเรือไทยบางคนพกน้ำพริกตาแดง น้ำพริกนรกมาด้วย)
ในเที่ยวบินระยะไกล โดยปกติจะมีอาหารสองมื้อและของว่างต่อลูกเรือหนึ่งคน นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการรับประทานอาหารที่เหลือ ที่ไม่ได้ใช้บริการให้ผู้โดยสารอีกด้วย (บางท่านต้องการพักผ่อนไม่ขอรับอาหารบางมื้อ ก็มี) ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกเรือทุกคนคือ การได้หวังว่า จะมีอาหารที่เหลือเสิร์ฟจากชั้นธุรกิจหรือชั้นเฟิร์สคลาส เนื่องจากเป็นอาหารที่อร่อยและสดใหม่ที่สุด และคุณจะได้รับประทานอาหารจากจานจริงๆ แทนกล่องฟอยล์ แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับลูกเรือคือ การไม่ขาดน้ำ (rehydrate) และดื่มน้ำให้มากๆ สายการบินส่วนใหญ่จัดหาน้ำดื่มบรรจุขวดให้พนักงานดื่มระหว่างเที่ยวบิน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการกินอยู่ของลูกเรือ
อาหารและเครื่องดื่ม จะมีรสชาติที่แตกต่างกันมากที่ระดับความสูง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีการค้นคว้าวิจัยกันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นมื้ออาหารของสายการบินมีชื่อเสียง ก็มักจะมีข้อร้องเรียนที่ไม่ดีมาโดยตลอด แต่ก็มีการปรับปรุงอย่างช้าๆ อาหารในห้องโดยสารได้รับการจัดเตรียมเป็นพิเศษ และมักประกอบด้วยเกลือ น้ำมัน และรสอูมามิเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงรสชาติอาหารให้ดีขึ้นเมื่ออยู่ในสภาวะความกดอากาศสูง
กฎระเบียบ
สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือ มีกฎต่างๆ โดยเฉพาะสำหรับนักบิน พวกเขาต้องรับประทานอาหารที่แตกต่างกันบนเที่ยวบิน เนื่องจากหากใครได้รับอาหารเป็นพิษจากมื้ออาหารของลูกเรือ นักบินอีกคนก็น่าจะไม่เป็นไร และสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้โดยไม่เสียสมาธิ จะมีอาหารที่แตกต่างกันสำหรับลูกเรือเสมอ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของเที่ยวบิน
ทานกี่มื้อ?
ขึ้นอยู่กับสายการบินเป็นอย่างมาก แต่สำหรับเที่ยวบินระยะสั้น โดยปกติจะมีการจัดเตรียมอาหารหนึ่งมื้อสำหรับลูกเรือแต่ละคน ในเที่ยวบินระยะไกล จะมีอาหารลูกเรือสองมื้อสำหรับลูกเรือแต่ละคน มีลักษณะเหมือนกับอาหารผู้โดยสารบนถาด แต่มีอาหารที่แตกต่างกันเล็กน้อย จะมีให้เลือกประเภทเนื้อสัตว์หรือมังสวิรัติ ลูกเรือจะเป็นผู้ตัดสินใจระหว่างกันเองว่าใครต้องการอะไร อาจมีอาหารสำรองหนึ่งหรือสองมื้อ หรือบางคนอาจตัดสินใจว่าจะไม่รับประทานอาหารที่สายการบินจัดให้
การรับประทานอาหารระหว่างเที่ยวบินทำงานอย่างไร
แน่นอนว่า บนเที่ยวบินไม่มีตารางเวลารับประทานอาหารที่กำหนดไว้ แต่จะไม่มีใครรับประทานอาหารจนกว่าบริการบนเที่ยวบินจะเสร็จสมบูรณ์ และลูกเรือก็ไม่ค่อยรับประทานอาหารในเวลาเดียวกัน มันเป็นเรื่องที่เร่งรีบมาก และลูกเรือส่วนใหญ่ก็ลุกขึ้นยืนกินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และส่วนใหญ่จะกินเฉพาะอาหารจานร้อนเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัว ม่านห้องครัวมักจะปิด แม้ว่าการให้บริการจะเสร็จสิ้นแล้ว ลูกเรือยังคงต้องรับสายและปฏิบัติหน้าที่
ลูกเรือรับประทานอาหารของชั้นธุรกิจหรือไม่
หากสายการบินมีบริการชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว อาหารเพิ่มเติมใดๆ จะถูกแจกจ่ายให้กับลูกเรือ บริการชั้นเฟิร์สคลาสเป็นบริการตามความต้องการ และผู้โดยสารต้องการตัวเลือกต่างๆ จนกระทั่งสิ้นสุดเที่ยวบิน ซึ่งหาได้ยากกว่า แต่ก็ทำให้ลูกเรือมีความสุขมาก ในเที่ยวบินส่วนใหญ่ ลูกเรือจะรับประทานอาหารตามปกติเท่านั้น
อาหารมื้อพิเศษ
บางครั้งผู้โดยสารอาจไม่ได้รับอาหารพิเศษ หรืออาจจะช้ากินไปที่จะสั่ง(จอง)อาหาร ในกรณีนี้ ลูกเรือจะเสนออาหารลูกเรือสำรองตามความเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของอาหารมังสวิรัติ หากเป็นข้อกำหนดด้านอาหาร พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะดำเนินการจัดเตรียมอาหารที่พวกเขามีอยู่ และประกอบอาหาร ที่อาจเป็นสลัดจากชั้นธุรกิจ ขนมปังและชีสจากถาดชั้นประหยัด รวมถึงผลไม้จากชั้นหนึ่ง
4. ห้องครัวสุขสรรค์
ลูกเรือชอบพูดคุย
อาจเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับหลายๆ คน ที่ลูกเรือในเที่ยวบินระหว่างประเทศส่วนใหญ่มักจะไม่เคยพบกันมาก่อนออกเดินทาง จึงเป็นเรื่องแปลกที่พวกเขาต้องทำงานร่วมกันกับคนที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน พวกเขาพบกับลูกเรือใหม่ทุกครั้ง ในห้องบรรยายสรุปก่อนการเดินทาง ลูกเรือรู้จักกันค่อนข้างเร็วเนื่องจากทำงานในพื้นที่จำกัด แต่โดยทั่วไปแล้ว ลูกเรือจะเป็นคนสบายๆ และชอบที่จะเข้ากับคนอื่นได้
ระหว่างช่วงเวลาอันเงียบสงบอันน้อยนิดหลังการบริการบนเที่ยวบิน พวกเขามักจะอยู่ในห้องครัวหลังม่าน เพื่อรับประทานอาหารและพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน บางครั้งพวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องภายในของบริษัท แต่มักจะซุปซิบเก็บเรื่องไว้เป็นความลับ ส่วนใหญ่มักจะพูดถึงการเดินทางครั้งก่อนหรือที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะถ้ามีคนอื่นที่เคยไปถึงจุดหมายปลายทางครั้งนี้มาก่อนหน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการสำหรับการหยุดพักผ่อน (ท่องเที่ยว) ระหว่างทางที่กำลังจะมาถึง บางครั้งก็มีตำนานในเมืองนั้นๆ ให้พูดคุย หรือเล่าขานเกี่ยวกับบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเที่ยวบิน ลูกเรือชอบพูดคุยและมักจะมีเรื่องราวใหม่ๆ ให้ได้รู้อยู่เสมอ
5. การตรวจสอบห้องโดยสาร
เราต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าผู้โดยสารจะคงหลับอยู่ ลูกเรือก็ต้องออกตรวจสอบดูแลห้องโดยสารต่อไป พวกเขาจะมองหาสิ่งผิดปกติและกวาดสายตาดูผู้โดยสารและห้องโดยสาร อาจมีผู้โดยสารไม่สบายหรือกระวนกระวาย อาจมีการสั่นสะเทือนหรือกลิ่นแปลกๆ ที่ต้องรายงานไปยังหัวหน้าลูกเรือ (Purser) เพื่อบ่งบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและทำการแก้ไข
มีการตรวจสอบที่จำเป็นอื่นๆ ที่ต้องทำ ลูกเรือบนเครื่องบินจะต้องได้รับการตรวจสอบทุกๆ 30 นาทีเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขายังสบายดี และดูว่าพวกเขาต้องการอะไรหรือไม่ นอกจากนี้ ห้องน้ำยังได้รับการตรวจสอบทุกๆ 30 นาทีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเหตุเพลิงไหม้ถังขยะ (จากการทิ้งก้นบุหรี่ของผู้โดยสาร) และอุปกรณ์ตรวจจับควันทำงานได้ปกติ ลูกเรือจะทำความสะอาดอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะมีเวลาบริการบนเที่ยวบินอย่างจำกัดในขณะที่ผู้โดยสารนอนหลับไหล แต่ลูกเรือจะยังคอยตรวจสอบห้องโดยสารให้พร้อมบริการอยู่เสมิ
ที่มา : simpleflying.com