Singapore to Doha (2).
ต้นทางกรุงเทพฯ แวะสิงค์โปร์ เพื่อปลายทางโดฮา (2)
สำหรับสถานที่รับสมัครก็ โรงแรมฮิลตัน สิงคโปร์ อยู่บนถนนออร์ชาร์ดครับ ดังนั้น เราก็ต้องทำการบ้านเรื่อง สถานที่รับสมัครให้ดีครับ นั่นคือ ดูว่าสถานที่รับสมัครอยู่ที่ไหน จะเดินทางไปอย่างไร และใช้เวลาในการเดินทางนานเท่าไหร่ จากที่พักของเรา เพราะเรื่องเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ครับ ดังนั้น พอเก็บของเข้าที่พักแล้ว ก็ออกเดินทางไปโรงแรมที่รับสมัครครับ ระหว่างนั้นก็จับเวลาว่า ใช้เวลาเท่าไหร่ นั่งรถไฟฟ้าสายไหนไป ส่วนเวลาที่เหลือก็เป็นเวลาของ… การเดินชอปปิ้งในสิงคโปร์ครับ (ไปถนนออร์ชาร์ด ต้องกินไอศครีมแท่งละเหรียญ เพื่อยืนยันว่ามาถึงจริง อร่อยครับ)
ที่พักราคาเยาว์ สะอาด แบบ Backpacker พักกันในสิงคโปร์
กลับมาถึงที่พัก ก็เตรียมเสื้อผ้า แล้วก็เอกสารสำหรับใช้ในการสมัครสำหรับวันพรุ่งนี้ครับ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ “สวดมนต์ภาวนา” ทำให้จิตใจสบายๆ ซะหน่อยครับ
ตื่นเช้าก่อนเวลาเริ่มรับสมัครนานเหมือนกันครับ เผื่อๆ ไว้ จำได้ว่าเริ่มรับสมัครตอนแปดโมงตรง ดังนั้น ด้วยความไม่ประมาทก็รีบออกเดินทางไปเลยครับ จำได้ว่าไปถึงโรงแรมประมาณ 7 โมงเช้าเลย นี่ขนาดว่าไปเช้าแล้ว ยังมีคนไปเช้ากว่าเราอีกแนะ รอไปซักพัก ก็เริ่มมีคนมาถึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากๆๆ กว่าที่เราคิดไว้เลยครับ ผู้หญิงก็เยอะ ผู้ชายก็ไม่น้อยหลายชาติ หลายภาษาเลยทีเดียวครับ
ห้องพักโรงแรมฮิลตัน ไม่ได้พักหรอกเอามาให้ดูเฉยๆ
ที่สังเกตได้คือ ที่นี่ผู้สมัครมีกันหลายแบบครับ บางคนก็แต่งตัวมาอย่างดี บางคนก็เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็มีเหมือนกัน บางคนรูปถ่ายเอกสารก็เป็นแบบถ่ายกันเอง ปรินท์มาแบบธรรมดาสุดๆ ก็มีครับ
ก่อนแปดโมงตรง ผู้สมัครก็เริ่มเข้าไปออกัน ที่หน้าประตูห้องรับสมัครกันแล้วครับ จากนั้นพอประตูเปิด ดูเหมือนทุกคนก็จะรีบเร่งเข้าไปนั่งในห้องประชุมกันเรียบร้อย แล้วซักครู่ประตูก็ปิด กรรมการก็เริ่มกระบวนการรับสมัครกันเลย
โดยเริ่มจากการทักทายผู้สมัคร เปิดวิดีโอแนะนำกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ และสายการบิน Qatar Airways จากนั้นก็อธิบายเกี่ยวกับเงินเดือน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ผลตอบแทนของลูกเรือสายการบินการ์ตาร์ จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการยื่นเรซูเม่ (CV Drop) กับคณะกรรมการครับ คนเยอะมากจนไม่มีโอกาสได้ทักทายอะไรกับกรรมการเลย คิดว่า กรรมการคงดูท่าทางของเราตั้งแต่การเดินเข้าไปวางเรซูเม่แล้วมั๊ง และคงเลือกจากการดูรายละเอียดในเรซูเม่ประกอบ ไม่มีทักทายถามอะไรสักคำ แล้วกลับไปรอที่ห้องพัก หรือจะไปเที่ยว ช็อปปิ้งก็ตามใจ เพื่อรอโทรศัพท์เรียกไปสัมภาษณ์ในวันรุ่งขึ้น… ทำใจให้สบายครับ
วันถัดมา… ถ้าไม่ได้รับโทรศัพท์ หรืออีเมล์ เรียกไปสัมภาษณ์ ก็แสดงว่าแห้ว…. ตามระเบียบ ไปเที่ยวแล้วก็กลับบ้านเรา กรุงเทพฯ ถ้าผมได้รับสายจากโทรศัพท์ในวันนั้น ก็คงไม่ได้มาที่สายการบินปัจจุบันในวันนี้นะซิ อือม์… สู้ต่อไปสินะเรา 😆
โดยส่วนตัวคิดว่า การสมัครด้วยการยื่นใบสมัครออนไลน์ เพื่อรับการอินไวต์และหมายเลข ID ไปสัมภาษณ์ มีโอกาสสูงกว่าการไปสมัครแบบ Walk-in ในการเปิดรับแบบ Open Day ซึ่งมีผู้คนมากมายมหาศาล และกรรมการมีโอกาสน้อยที่จะได้เห็นศักยภาพของผู้สมัครจริงจัง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีมารับสมัครใกล้ๆ บ้านก็อย่าพลาดโอกาสอันดีนั้นเลย สมัครไปเรื่อยๆ จนกว่าจะประสบผลสำเร็จนั่นแหละ 😀 😛 🙂