วิวัฒนาการของไมโครโพรเซสเซอร์
1)
ไมโครโพรเซสเซอร์ 8086 เริ่มพัฒนาและนำออกมาใช้งานตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2523 เป็นซีพียูขนาด 16 บิต อย่างไรก็ดีบริษัทผู้ผลิตได้ผลิตซีพียูรุ่น
8088 ในเวลาต่อมา และกลายเป็นซีพียูของไมโครคอมพิวเตอร์
ซีพียูรุ่นนี้มีโครงสร้างการทำงานที่ต่อเชื่อมกับหน่วยความจำหลักโดยตรงได้มากถึง
1 เมกะไบต์ (megabyte) 1 เมกะไบต์
เท่ากับ 1024 กิโลไบต์ (kilobyte : kb) 1 กิโลไบต์
เท่ากับ 1024 ไบต์ (byte) และ 1 ไบต์ เท่ากับ 8 บิต
ไมโครโพรเซสเซอร์
8086 |
2)
ไมโครโพรเซสเซอร์ 80286 เป็นพัฒนาการรุ่นต่อมาของ
8086 นำออกจำหน่ายในปี พ.ศ. 2526 ต่อมากลายเป็นซีพียูของเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
รุ่นเอที ขีดความสามารถของ 80286 ยังคงเป็นไมโครโพรเซสเซอร์ขนาด
16 บิต แต่สามารถเชื่อมต่อกับหน่วยความจำหลักได้โดยตรงถึง
16 เมกะไบต์
ไมโครโพรเซสเซอร์
80286 |
3)
ไมโครโพรเซสเซอร์ 80386
เป็นซีพียูรุ่นที่สามที่ใช้ในไมโครคอมพิวเตอร์ นำออกจำหน่ายในปี
พ.ศ. 2529 ซีพียูรุ่นนี้เป็นซีพียูขนาด 32 บิต มีประสิทธิภาพการทำงานได้ดีกว่า
80286 มาก โดยเฉพาะโครงสร้างการเชื่อมต่อกับหน่วยความจำสามารถต่อได้ถึง
4 กิกะไบต์
ไมโครโพรเซสเซอร์
80386 |
4)
ไมโครโพรเซสเซอร์ 80486
พัฒนาต่อเนื่องมาจาก 80386 เริ่มผลิตออกจำหน่ายในปี
พ.ศ. 2533 ซีพียูตัวนี้ยังคงเป็นซีพียูแบบ 80386 แต่เพิ่มขีดความสามารถในการคำนวณจำนวนจริง
ไมโครโพรเซสเซอร์นี้มีสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนขึ้น มีจำนวนทรานซิสเตอร์กว่าหนึ่งล้านตัวในชิพเดียวกัน
ไมโครโพรเซสเซอร์
80486 |
5)
ไมโครโพรเซสเซอร์ที่สูงกว่าไมโครโพรเซสเซอร์
80486 บริษัทผู้ผลิตได้เปลี่ยนชื่อรุ่นซีพียูจากการใช้หมายเลขมาเป็นชื่อทางการค้า
เช่น เพนเตียม (pentium) เอทรอน(athlon) ซึ่งซีพียูนี้มีจำนวนทรานซิสเตอร์มากกว่าสามล้านตัวเป็นซีพียูขนาด
64 บิต และทำงานได้เร็วกว่าไมโครโพรเซสเซอร์ 80486
โดยเฉพาะมีการทำงานภายในด้วยกระบวนการทำงานแบบขนานเพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น
พัฒนาการของหน่วยประมวลผลกลางก้าวหน้าตลอดเวลา มีผู้ผลิตหน่วยประมวลผล
กลางจากหลายบริษัท แต่ละบริษัทได้พัฒนาขีดความสามารถที่แตกต่างกัน
ในอนาคตหน่วยประมวลผลกลางจะได้รับการพัฒนาให้มีขีดความสามารถสูงขึ้นอีกมาก
ไมโครโพรเซสเซอร์ที่สูงกว่า
80486 |
จำนวนทรานซิสเตอร์ในไมโครโพรเซสเซอร์
|